ใครจะไปคิดว่าผู้รักษาประตูเกรดธรรมดา โนเนมๆ และไม่ได้อยู่ในสายตาใครๆ อย่าง อาเดรียน จะได้โอกาสย้ายมาเฝ้าเสาให้กับทีมใหญ่ๆ อย่าง ลิเวอร์พูล และก็ได้โอกาสสัมผัสกับความสำเร็จ
วันนี้สิ่งที่ 'ขอบสนาม' จะนำเสนอก็คือการพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปดูอดีตของนายทวารคนนี้กันว่าก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ชีวิตของเขาต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
เป็นกองหน้ามาก่อน
เมื่อสมัยอายุยังน้อยเดิมที่ อาเดรียน เคยเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้ามาก่อนตอนสังกัดอยู่กับทีมท้องถิ่นอย่าง ซีดี อัลแตร์ เพราะพี่แกนั้นมีหุ่นสรีระที่สูงปรี๊ด และก็เหมือนจะฉายแววได้ดีด้วย ณ ช่วงเวลานั้น แต่พออายุได้ 10 ขวบในช่วงที่ทีมขาดแคลนผู้เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู อาเดรียน ก็เลยอาสาไปรับบทบาทนั้นแดน และก็เล่นได้ดีจนไปเตะตาแมวมองของ เรอัล เบติส ก่อนถูกทาบทามตัวมาปลุกปั้นในอคาเดมี่
ความตกอับ
ช่วงปี 2006-12 ถึงแม้ อาเดรียน จะได้โอกาสมาค้าแข้งกับทีมที่มีชื่อชั้นมากขึ้นและก็ได้เล่นในเวทีระดับ ลา ลีกา อย่าง เรอัล เบติส แต่ส่วนใหญ่จะได้โอกาสเฝ้าเสาให้แค่ทีมชุด บี และ ชุดซีเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นโชคชะตาก็ไม่ได้ใจร้ายกับ อาเดรียน เสียทีเดียวเชียว เพราะในฤดูกาล 2012-13 หลังจาก กาสโตร โดนใบแดงในเกมแพ้ มาลาก้า 0-4 อาเดรียน ก็ได้โอกาสลงมาพิสูจน์ตัวเองจนยึดมือ 1 ในที่สุด โดยผลงานชิ้นโบว์แดงของไอ้หมอนี่ก็คือการเซฟเป็นพัลวันในเกมที่ เบติส ชนะ เรอัล มาดริด 1-0 และเกมนั้น อาเดรียน ได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ชีวิตที่ เวสต์แฮม
1 ปีที่เขาโชว์ฟอร์มได้เข้าตากับ เบติส แซม อัลลาร์ไดซ์ ก็เป็นคนเปิดปากชักชวนให้ อาเดรียน มาร่วมงานกันที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แรกๆ ก็ดูชีวิตดีนะ ได้โอกาสเฝ้าเสาอย่างต่อเนื่องประมาณ 3 ปี แต่จากนั้นก็เจอปัญหาอาการบาดเจ็บบ้าง ฟอร์มตกจนเป็นสำรองบ้าง ตลอดจนฤดูกาลล่าสุด หรือ 2018-19 อาเดรียน ต้องเสียตำแหน่งให้กับ ลูคัส ฟาเบียงสกี้ และนั่นทำให้ อาเดรียน ไม่ได้โอกาสลงเล่นในเกมลีกเลยแม้แต่นัดเดียว โดยพี่แกจะได้เล่นก็แค่เกมบอลถ้วยเท่านั้น แต่มันก็แค่ 5 นัดเท่านั้น
ทีมชาติสเปน
เส้นทางค้าแข้งกับสโมสรก็ไม่ค่อยสวยหรูอยู่แล้วมาเจอเส้นทางกับทีมชาตินี่หนักกว่าเลย แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเหล่าบรรดาขุนพลทีมชาติสเปนในทุกยุคทุกสมัยต่างก็มีผู้เล่นที่ศักยภาพสูงอยู่แล้วในทุกตำแหน่ง ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องยากที่ผู้รักษาประตูอย่าง อาเดรียน จะได้รับโอกาสเขา ซึ่งมีครั้งเดียวเท่านั้นที่พี่แกอยู่ในสายตา หลังถูก ฆูเลน โลเปเตกี เรียกตัวติดทีมชาติช่วงเดือนกันยายนปี 2016 ซึ่งตอนนั้นมีเกมอุ่นเครื่องกับ เบลเยี่ยม และเกม ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก แต่ก็ได้แค่นั่งดูเพื่อนเล่นอยู่ข้างสนามเท่านั้น
ไม่มีที่อยู่
หลังหมดสัญญากับ เวสต์แฮม เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน อาเดรียน ต้องกลายเป็นนักเตะเร่ร่อนไม่มีสังกัดและก็ไม่มีใครเอา เวลาส่วนใหญ่ของพี่ก็คือการกลับไปฝึกซ้อมกับโค้ชผู้รักษาประตูส่วนตัวที่ เซบีย่า ซึ่งจริงๆ ก็มีข้อเสนอยื่นเข้ามามากมาย แต่มันก็ไม่ได้ดูน่าสนใจเลย
ย้ายมา ลิเวอร์พูล
จนกระทั่งสัปดาห์สุดท้ายก่อนศึก คอมมูนิตี้ ชิลด์ เมื่อ ซิมง มินโญเล่ต์ ย้ายกลับบ้านเกิดไปเฝ้าเสาให้ คลับ บรูซ ก็เลยทำให้ ลิเวอร์พูล นั้นตัดสินใจกระชาก อาเดรียน ไปเป็นอะไหล่ของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ และแล้วการเปิดซิงเกมแรกของ อาเดรียน ก็ไม่ต้องรอนานเลย เพราะในเกมเปิดสนาม พรีเมียร์ลีก 2019-20 อลิสซอน เบ็คเกอร์ เบ็คเกอร์ บาดเจ็บในนาที 39 ก็เลยทำให้ อาเดรียน ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง แต่ที่พิเศษสุดๆ สำหรับชายคนนี้ก็คงเป็นเกม ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่เจอกับ เชลซี เพราะนี่คือเกมแรกที่ อาเดรียน ได้เฝ้าเสาเต็มเวลา ก่อนจะเป็นฮีโร่พา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์มาครอง หลังจากเซฟจุดโทษของ แทมมี่ อบราฮัม เอาไว้ได้ และนี่ก็คือโทรฟี่ใบแรกในชีวิตของนายทวารวัย 32 ปีด้วย ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม