logo-heading

โมนาโก ปีนี้จริงๆ สถานการณ์ของพวกเขาก็ไม่ได้ต่างอะไรจากปีก่อนเลย แต่ถ้าเกิดใครเฝ้าติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในฤดูกาลนี้จะเห็นได้ว่าอะไรๆ มันเริ่มดูดีขึ้น ถึงมันจะไม่ได้มากมายเท่าไหร่แต่มันมันดีกว่าปีก่อน

หนึ่งในสิ่งดีๆ ที่ว่านั้นก็คือการเสริมทัพดึงตัว วิสซาม เบน เยแดร์ มาล่าตาข่ายในรั้วสนาม สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ และจนถึงตอนนี้บทสรุปก็คือมันเป็นดีลที่คุ้มค่ามากๆ และวันนี้สิ่งที่ 'ขอบสนาม' จะนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับชายที่ชื่อ วิสซาม เบน เยแดร์ คนนี้กัน

ประวัติพอสังเขป

วิสซาม เบน เยแดร์ นี่แหละคือชื่อเต็มของเขา เกิดวันที่ 12 สิงหาคม ปี 1990 ที่ ซาร์กเซลส์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส-ตูนีเซีย ส่วนสูง 170 เซนติเมตร ประจำการในตำแหน่งกองหน้าสังกัดอยู่กับ โมนาโก

ชื่อเล่น-ครอบครัว

วิสซาม เบน เยแดร์ มีชื่อเล่นว่า Benyebut (เบนเยบัต) ไม่รู้อ่านถูกไหม แต่ในความหมายของชื่อนี้นั้นในภาษาฝรั่งเศสมันแปลว่า 'เป้าหมาย หรือ จุดมุ่งหมาย' นั่นเอง นับเป็นชื่อที่ดีมากๆ ส่วนเรื่องขอครอบครัวก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างคนฝรั่งเศสและคนตูนีเซีย โดยครอบครัวของ เบน เยแดร์ มีลูกทั้งหมด 6 คนซึ่งพี่แกเป็นลูกคนที่ 4

เรื่องราวในวัยเด็ก

เบน เยแดร์ โตมาที่ ซาร์กเซลส์ เป็นชานเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และหารู้ไม่ว่าพี่แกนั้นเป็นเพื่อนซี้ที่โตมาพร้อมๆ กับ ริยาด มาห์เรซ ดาวเตะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปัจจุบัน แต่การใช้ชีวิตที่นั่นก็ลำบากอยู่ไม่น้อยเพราะพี่แกต้องเจอเหตุการณ์ประท้วงครั้งใหญ่ในเมืองหลวงของฝรั่งเศสก็เลยทำให้ เยแดร์ ต้องอพยพไปอยู่ที่ การ์ช-เลส์-โกเนส และนั่นก็เป็นจุดที่ทำให้เขาได้เริ่มเดินในเส้นทางสายลูกหนัง และความฝันของเขาในตอนนั้นก็เหมือนกับเด็กพันๆ คนในเมืองนั้นนั่นก็คือ 'การได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ' แต่การเริ่มต้นนั้นเริ่มจากการเตะฟุตซอล

เส้นทางการค้าแข้ง

ณ ตอนนั้นเขาได้รับการยกย่องในเรื่องฝีเท้ามากๆ ไม่ว่าจะเป็นการจับบอลแรก ความคล่องตัว เทคนิคการเอาตัวรอดในจังหวะต่างๆ ตลอดไปจนการจบสกอร์ส่งบอลซุกก้นตาข่าย และเมื่อ เยแดร์ อายุได้ 10 กว่าก็เริ่มเปลี่ยนความคิดจากฟุตซอลมาลุยในเส้นทางสายฟุตบอล พี่แกได้เกาะติด ฟุตบอลโลกปี 2006 และนั่นก็เป็นแรงบัลดาลใจให้เขายิ่งยากลุยในเส้นทางนี้มากขึ้น โดยปีถัดมา เยแดร์ ได้โอกาสเล่นให้กับทีมระดับท้องถิ่นชื่อว่า แซงต์-เดนิส และด้วยพรสวรรค์และความอันตรายรอบด้านทำให้เขาใช้เวลาแค่แปปเดียวก็ได้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ ก่อนจะพัฒนาย้ายไปเล่นให้ ยูเจเอ อัลฟอร์ตวิลล์ ทีมที่อยู่ระดับเหนือกว่านั้น

เข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

จนกระทั่งปี 2010 เยแดร์ ถูกแมวมองของ ตูลูส เดินเรื่องพรากตัวมาปลุกปั้นเพื่ออนาคต และเพียงแค่ 2 ปีพี่แกได้ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักของทีม และนี่ก็คือผลงานของเขา 2012-13 : 37 นัด 15 ประตู 2013-14 : 42 นัด 17 ประตู 2014-15 : 38 นัด 15 ประตู 2015-16 : 41 นัด 23 ประตู จากพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมทั้งฝีเท้าและจำนวนการผลิตสกอร์ชีวิตของ วิสซาม เบน เยแดร์ ก็ก้าวกระโดดมากขึ้นไปอีกโดยได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งให้กับทีมชั้นนำอย่าง เซบีย่า ในเวที ลา ลีกา สเปน นี่คืออีกบททดสอบครั้งสำคัญของเขาเลย เพราะได้เล่นให้กับทีมที่ใหญ่ขึ้น มีการแข่งขันมากขึ้น มีความกดดันมากขึ้น มีความท้าทายมากขึ้น แต่สิ่งเหล่านั้นทำอะไรชายคนนี้ไม่ได้เลย เพราะตลอด3 ปีกับ เซบีย่า พี่แกซัดไปถึง 70 ประตูจาก 138 เกม เฉลี่ยแล้ว 2 เกม พี่แกยิงได้ 1 ประตู 2016-17 : 42 นัด 18 ประตู 2017-18 : 42 นัด 22 ประตู 2018-19 : 54 นัด 30 ประตู

ย้ายมา โมนาโก

ด้วยผลงานในฤดูกาลสุดท้ายที่ซัดไประเบิดระเบ้อถึง 30 ประตูจาก 54 เกม ทำให้ชื่อของ วิสซาม เบน เยแดร์ ตกเป็นข้าวเชื่อมโยงกับทีมชั้นนำมากมายไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงที่แนวรุกกำลังเห่ยสุดๆ, บาเยิร์น มิวนิค ช่วงที่หาตัวแทนของ ฟร้องซ์ ริเบรี่ และ อาร์เยน ร็อบเบน และ แอตเลติโก มาดริด ที่กำลังจะเสีย อองตวน กรีซมันน์ สุดท้ายหวยมาออกที่ โมนาโก โดยย้ายมาด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะ ราดาเมล ฟัลเกา มันเริ่มโรยราแล้ว เจ็บก็บ่อยก่อนจะย้ายไป กาลาตาซาราย อย่างที่คุณเห็นกันแหละตอนช่วงเปิดซีซั่น โมนาโก มีผลงานที่ตกต่ำมากๆ และก็เจอปัญหามากมายจนหล่นไปรั้งอยู่โซนท้ายตาราง อย่างไรก็ตามเมื่อ วิสซาม เบน เยแดร์ เริ่มปรับตัวได้และมีชื่อบนสกอร์บอร์ดให้กับต้นสังกัดจากนั้นมันหยุดไม่อยู่แล้ว ตอนนี้พี่แกลงเล่นไปแล้ว 9 เกมยิงไป 9 ประตูนำเป็นดาวซัลโวของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ณ ตอนนี้ ทำสถิติเป็นผู้เล่น โมนาโก ที่ยิงประตูได้เท่านี้ด้วยการลงเล่นที่น้อยที่สุด ล่าสุดเพิ่งพาทีมบุกไปเฉือน น็องต์ ถึงบ้าน 1-0 และแน่นอนว่าพี่แกคือฮีโร่ผู้ซัดประตูชัย

สไตล์การเล่น

แน่นอนว่าเมื่อคุณเล่นฟุตซอลมาก่อนสิ่งที่โดดเด่นมากๆ ที่ เยแดร์ มีสูงเลยก็คือการจับบอลแรกที่ยอดเยี่ยม มีความคล่องตัวสูง เคลื่อนที่และหาช่องได้ดี นอกจากนี้พี่แกยังมีความจมูกไวในกรอบเขตโทษด้วย มีการปิดสกอร์ที่เฉียบคม ถึงแม้จะมีรูปร่างที่ไม่สูงแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเขาเลย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline