logo-heading

ลิเวอร์พูล กลับมาเก็บ 3 คะแนน ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อีกครั้ง หลังจากบุกไปเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 ได้แบบสุดมันส์ ซึ่งคนที่ทำประตูชัยให้ หงส์แดง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นกฎยิงทีมเก่าอย่าง ดิโอโก้ โชต้า 

แต่ชัยชนะนัดนี้ของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มาอย่างง่ายดาย เพราะแฟนบอล เดอะ ค็อป ก็นั่งตูดไม่ติดเก้าอี้เหมือนกัน เพราะเกือบจะจบลงผลเสมอ เกมนี้มีอะไรให้พูดถึงเช่นเดิม ไปติดตามความมันส์ในคืน มันเดย์ ไนท์ กันได้เลย

มาเน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง

ผ่าน 10 นาทีของเกมมาเล็กน้อย ลิเวอร์พูล มีโอกาสขึ้นนำแบบสุดๆ เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ หลุดกับดักล้ำหน้า ได้เข้าไปดวลเดี่ยวกับ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตู วูล์ฟแฮมป์ตัน แต่เหมือนว่าช่วงนี้ผลงานการจบสกอร์ช่วงนี้ ขาดความมั่นใจเหลือเกิน เพราะจังหวะดังกล่าว มาเน่ พยายามเลี้ยงบอลแตะหลบ ปาตริซิโอ แต่กลายเป็นว่าเลี้ยงไปติดมือ บอลแฉลบออกด้านข้าง เจ้าตัวตามไปเก็บบอล ม้วนตัวกลับมา และ ไม่เลือกจ่ายให้เพื่อน ก่อนตัดสินใจยิงซ้ำอีกด้วยตัวเอง แต่ก็ไปติดบล็อคผู้เล่น วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ลงถอยมารับกันอย่างรวดเร็ว เรียกว่าทำหมูหกแบบไม่ได้ลุ้นพลาดโอกาสขึ้นตั้งแต่ต้นเกม

มาเน่ พลาดโอกาสทองอีกครั้ง

ในเกมวันนี้ เป็นทาง มาเน่ ที่มีโอกาสเยอะกว่าใครเพื่อนในช่วงครึ่งแรก แต่เพียงแค่ว่าเขาก็ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้มันเป็นประตูขึ้นนำได้ โดยเป็นจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้เลี้ยงจี้เข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะไหลย้อนไปให้กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้บรรจงเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ บอลเปิดของ เทรนท์ ครอสต่ำๆไปให้กับ ซาดิโอ มาเน่ ที่หนีตัวประกบยืนโล่งๆอยู่ในกรอบเขตโทษ จริงๆจังหวะนี้เจ้าตัวสามารถเอาบอล 1 จังหวะ แล้วซัดด้วยเท้ายังได้ แต่เชื่อว่าด้วยความที่เกมมันเร็ว และ ไม่รู้ว่ามีใครมาบีบข้างหลังหรือเปล่า ทำให้ มาเน่ ก้มต่ำลงไปขวิดหวังให้เสียบเสาแรก ซึ่งบอลพุ่งแรงแบบหวาดเสียว แต่มันแค่ถากเสาออกไป

ประตูแรก หงส์แดง มาช่วงทดเจ็บ

หลังจากที่ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสขึ้นนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน ถึง 2 หน ดูเหมือนว่าครึ่งแรกจะจบด้วยสกอร์ 0-0 เพราะเกมดำเนินไปอย่างสูสีมาก บอลเคลื่อนที่กันเร็วทั้ง 2 ทีม เรียกว่าฝั่งไหนได้บอล ก็จะทำเกมรุกใส่ทันที ซึ่งลูกทีมของ นูโน่ เอสเปริโต้ ซานโต้ ก็มีการสร้างจังหวะหวังยิงประตู หงส์แดง ให้ได้ แต่เกมนี้ลูกกลางอากาศ ไม่อาจสร้างพิษสงให้กับแนวรับ ลิเวอร์พูล เท่าไหร่ กระทั่งมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 45+2 ลิเวอร์พูล มาได้จังหวะบุกครั้งสุดท้าย และ เป็น 3 แนวรุก หงส์แดง ที่ประสานงานกัน เมื่อ ซาดิโ มาเน่ ป้ายบอลมาทางขวาให้กับ โม ซาลาห์ ก่อนจะชิ่งกลับคืนไปให้ที่ มาเน่ อีกครั้ง คราวนี้ มาเน่ ไม่ต้องดึงจังหวะให้มากความ ไหลต่อไปให้กับ ดิโอโก้ โชต้า ที่วิ่งประคองไลน์อยู่ด้านซ้าย เจ้าตัวปล่อยให้บอลไหลเข้าซ้าย แบบไม่ต้องจับ ก่อนจะซัดแบบติดไซร้ก้อยเล็กๆ รุย ปาตริซิโอ ปัดโดนบอลก็จริง แต่ปัดไม่ออก บอลไหลเข้าไปซุกตาข่าย เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของ ลิเวอร์พูล ที่มาได้ถูกช่วงถูกเวลาจริงๆ

เริ่มครึ่งหลัง วูล์ฟ ได้โอกาสตีเสมอ

ช่วงออกสตาร์ทครึ่งหลัง เป็น วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่มีโอกาสจะยิงประตูได้ก่อน และ เชื่อว่าสาวก "เดอะ ค็อป" ตูดไม่ติดเก้าอี้แน่นอน โดยเป็นจังหวะที่ หมาป่า ได้ครอสเข้าไปในกรอบเขตโทษ และ คอเนอร์ โคดี้ ที่กระโดดเอาชนะแนวรับ ลิเวอร์พูล ได้โขกเต็มหัว อาจจะไม่ได้ตรงกรอบถึงขั้นอันตราย แต่ก็เป็นโอกาสหวาดเสียว ที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ส่งสัญญาณเตือนว่าครึ่งหลังพวกเขาพร้อมจะบุกตีเสมอทุกเมื่อ อารมณ์ประมาณว่าอย่างพลาดให้เห็นก็แล้วกัน

บอลสูสีมาก โอกาสจะแจ้งไม่มี แต่ หงส์แดง เกือบแจกของขวัญ

ด้วยความที่บอลมันสูสี และ ทันกันมากๆ ไม่มีใครอยากเพลี่ยงพล้ำ ทำให้โอกาสที่จะได้เห็นประตูในช่วงครึ่งยากมากกว่าเดิม แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ทั้ง 2 ทีม ก็พยายามหาจังหวะยิง และ จังหวะเข้าทำ ซึ่งทาง ลิเวอร์พูล ก็มียิงนกตกปลาจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์  ขณะที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไม่อาจทำลายแนวรับ หงส์แดง ไปได้ จนกระทั่ง แนท ฟิลลิปป์ เกือบแจกของขวัญให้กับคู่แข่ง เมื่อเขาเปิดบอลขวางสนาม กะจะเปลี่ยนแกนมาด้านซ้าย แต่เปิดไม่ถึงเพื่อน ถูกทาง อดาม่า ตราโอเร่ ดักไว้ได้ ก่อนจะเลี้ยงเข้าไปสู่ระยะทำการ กดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่มันไปตรงตัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ ป้องกันแบบไร้ปัญหา

หงส์แดง เกือบนำ 2-0 แต่ถูกจับล้ำหน้า

มีช็อตที่ โอซาน คาบัค ช่วยชีวิต ลิเวอร์พูล วิ่งตามไปแย่งบอลมาจาก มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ที่ทำชิ่งกับเพื่อน เกือบจะหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ อลิสซอน .. หลังจากนั้นไม่นาน นาที 87 หงส์แดง เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ 2-0 เพื่อยิงตอกฝาโรง ซึ่งจังหวะนี้ เป็น อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ตัวสำรอง จ่ายทะลุช่องไปให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งเข้าไปยิงผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ เรียบร้อย แต่กระนั้นไลน์แมน จับว่าดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ล้ำหน้า จากภาพช้าก็ชัดเจนว่า ซาลาห์ เหลื่อมแนวรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปครึ่งช่วงตัว ทำให้สกอร์ยังคงอยู่ที่ 1-0 อย่างไรก็ตาม จากจังหวะที่ ซาลาห์ ถูกจับออฟไซด์ เกิดเหตุการณ์ รุย ปาตริซิโอ บาดเจ็บรุนแรง หลังไปปะทะกับ รุย ปาตริซิโอ ช็อตที่พยายามวิ่งตามมาสกัด ทำเอานายด่านทีมชาติโปรตุเกส นอนแน่นิ่ง ต้องให้ทีมแพทย์เข้ามาปฐมพยาบาลนานเกือบ 10 นาที เพราะเป็นอาการบาดเจ็บรุนแรง ถึงขั้นที่กล้อง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่จับภาพ เพราะกลัวมีอะไรรุนแรงหลุดออกไป หลังจากปฐมพยาบาลกันเสร็จสิ้น มาเริ่มเตะกันนาทีที่ 100 และ ทดเวลาเพิ่มไปอีก 7 นาที ซึ่งก็เป็น ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสยิงอีกครั้ง โดย โม ซาลาห์ ปั่นโค้งๆย้อยๆ หวังให้เสียบเสาไกล แต่ก็หลุดกรอบออกไปอีก กระทั่งทดเจ็บนาทีสุดท้าย แฟนบอล หงส์แดง หัวใจเกือบวาย เมื่อ ซาดิโอ มาเน่ ไปเสียบอลในจังหวะทำเกมรุกยิงประตู เจอสวนเปรี้ยงเดียวเกือบเสียประตูตีเสมอ เมื่อ อดาม่า แหวก 2 แหวก 3 หลุดเข้าไปครอสให้เพื่อน พื้นที่โคตรโล่ง มีเวลาคิด มีเวลาทำ แต่เปิดเลยเพื่อนไปอย่างเหลือเชื่อ โดยยังมี เปโดร เนโต้ ตามไปเก็บไม่ให้ลูกออก ปาดเข้ามาแบบได้ลุ้น แต่เป็น อลิสซอน ปัดทิ้งออกมาหน้าประตู ยังดีตรงนั้น มี ฟาบินโญ่ และ จ่ายให้เพือนเคลียร์ทิ้งออกไป

สุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของ ลิเวอร์พูล เหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 เป็นการกลับมาเก็บ 3 คะแนน อีกครั้งได้สำเร็จ

ฮาย ฮาวดี้

logoline