จาร์ร็อด โบเว่น : จากแข้งลีกล่าง สู่นักเตะหัวแถวของพรีเมียร์ลีก
ถ้าจะถามถึงนักเตะที่โชว์ฟอร์มดี ผลงานเด่น และพัฒนายอดเยี่ยมในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา แน่นอนว่าลิสต์รายชื่อต้องปรากฎรายนามของ จาร์ร็อด โบเว่น แข้งของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน
กองกลางวัย 25 สามารถดีดตัวเองขึ้นมาเป็นแข้งแนวหน้าของศึกพรีเมียร์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่ก่อนหน้านั้นประสบการณ์ของเขาส่วนมากจะอยู่แต่กับลีกรองอย่าง เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งทัพ "ขุนค้อน" มอบโอกาสครั้งสำคัญในการได้พิสูจน์ตัวเองบนลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ
ย้อนกลับไป โบเว่น เติบโตขึ้นมาพร้อมกับการมี เดวิด เบ็คแฮม เป็นไอดอล ฉะนั้นเขาเลยเริ่มเดินทางตามความฝันของตัวเอง เพื่อสักวันจะได้เจริญรอยตามขวัญใจของตัวเอง ช่วงแรกทุกอย่างอาจยากไปหมดเขาไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรดังอย่าง แอสตัน วิลล่า และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แต่ทว่าบทสรุปออกมาเหมือนกันคือโดนปฎิเสธ
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเอามาบั่นทอนจิตใจ จนกระทั่งเขาได้โอกาสจากทีมเล็กๆ อย่าง เฮริฟอร์ด ยูไนเต็ด ในการรับเข้าสังกัด ซึ่งในชุดเยาวชนนี่คือนักเตะที่ผลงานโดดเด่นกว่าใครเพื่อน จนสร้างความประทับใจให้กับทีมงานสต๊าฟฟ์ ซึ่งเมื่อเมื่ออายุครบ 17 ปี จะได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ในทันที
22 มีนาคม 2014 คือเกมแรกในฟุตบอลลีกอาชีพของ โบเว่น ในเกมที่ เฮริฟอร์ด พ่ายให้กับ บาร์เน็ต 2-0 ในศึก พรีเมียร์ คอนเฟอเรนซ์ ลีก แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ แต่นี่คือก้าวแรกบนความฝันของเด็กหนุ่มผู้นี้ ก่อนหลังจากนั้นไม่นาน โบเว่น จะประเดิมตุงแรกให้กับสโมสรได้สำเร็จ
แต่ทว่าหลังจากที่ เฮริฟอร์ด ไม่ได้อยู่ในอีกแล้ว คอนเฟอเรนซ์ลีก ทำให้ โบเว่น กลายเป็นแข้งฟรีเอยนต์ในทันที ชีวิตตอนนั้นก็อาจจะเคว้งเล็กน้อยกับเด็กที่อายุยังไม่แตะหลัก 20 ปี ก่อนที่จะได้รับข่าวดีเมื่อ ฮัลล์ ซิตี้ ยื่นข้อเสนอทาบทามให้ไปทดสอบฝีเท้าด้วย ซึ่งเจ้าหนูคนนี้ก็สามารถโชว์ผลงานออกมาในช่วงปรี-ซีซั่น ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และทางทัพ "เดอะ ไทเกอร์" ก็บรรจงมอบสัญญาให้กับเขา เนื่องด้วยประทับใจในลีลามากเหลือเกิน
จะว่าไปนี่เหมือนก้าวกระโดดครั้งใหญ่จากนักเตะในลีกล่าง สู่การเป็นแข้งของ ฮัลล์ ที่สถานะในตอนนั้นคือทีมในศึกพรีเมียร์ลีก แม้ช่วงแรกของ โบเว่น จะไม่ได้สัมผัสการลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เลยก็ตาม เพราะ 2 ปี แรกในซีซั่น 2014-15 กับ 2015-16 เขาทำได้เพียงเป็นผู้ชม และฝึกซ้อมกับทีมในระดับเยาวชนเท่านั้น
จนกระทั่งชีวิตมาพลิกผันเมื่อม่านฤดูกาล 2016-17 เปิดขึ้น ซีซั่นนั้น ฮัลล์ เพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง และ โบเว่น ก็ได้โอกาสครั้งสำคัญในการลงเล่นศึกพรีเมียร์ลีกในเกมที่ 10 ของฤดูกาล ในเกมที่ทีมบุกไปพ่าย วัตฟอร์ด 1-0 โดยได้โอกาสลงสนามในช่วงนาทีที่ 90 แทนที่ของ มาร์คุส เฮนริคเซ่น แม้เวลาจะน้อยนิดจนแทบไม่ได้โชว์ผลงาน แต่คือการเปิดประตูสู่การเป็นแข้งตัวหลักของทีม
จบซีซั่นดังกล่าว โบเว่น ลงสนามให้กับ ฮัลล์ ไปทุกรายการทั้งหมด 9 นัด แถมทีมต้องตกชั้นสู่ศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง โดยในช่วงซัมเมอร์ทีมได้ปล่อยนักเตะหลายคนออกไปจากทีม ถ้าชื่อดังๆ ก็อย่างเช่น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (ไป เลสเตอร), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ไป ลิเวอร์พูล) หรือ ทอม ฮัดเดิลสตัน (ไป ดาร์บี้)
มันเลยทำให้โอกาสของ โบเว่น มีมากยิ่งขึ้น ซีซั่นแรกแบบเต็มตัวของเขาเริ่มต้นในลีกรองพร้อมสถิติลงสนามไปมากถึง 44 นัด ซัดไป 15 ประตู พ่วงกับ 3 แอสซิสต์ ซึ่งถ้าจะบอกว่านี่คือการทำประตูที่ยอดเยี่ยมของเขาแล้ว ได้โปรดมองไปที่ตัวเลขในอีก 2 ฤดูกาลถัดมาในสีเสื้อ ฮัลล์ สำหรับการลงเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ
2018-19 : ลงสนาม 46 นัด ยิง 22 ประตู
2019-20 : ลงสนาม 32 นัด ยิง 17 ประตู ** ครึ่งฤดูกาล
ว่าแล้วด้วยผลงานที่โดดเด่นมันเลยทำให้ แชมเปี้ยนชิพ คงเป็นเวทีที่เล็กเกินไปสำหรับเขาแล้ว ช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2020 เวสต์แฮม จัดการประเคนเงิน 18 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นการสู่ขอ โบเว่น ในการย้ายเข้ามาสู่ทีม
ซึ่งนี่คือการกลับมาลงเล่นบนลีกสูงสุดอีกครั้งของเขา แม้ครึ่งซีซั่นแรกกับทัพ "ขุนค้อน" ผลงานอาจจะยังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก แต่มันก็เหมือนเป็นช่วงเวลาปรับตัว ก่อนที่จะได้โอกาสเฉิดฉายจริงๆ ในอีกฤดูกาลต่อจากนั้น
โบเว่น ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุดต้องยอมรับว่านี่คืออาวุธทีเด็ดของ เดวิด มอยส์ และ เวสต์แฮม อย่างแท้จริง การพัฒนาแบบก้าวกระโดดจนได้รับการยกย่องในเรื่องฝีเท้า มันไม่ใช่เพียงเรื่องของความเร็วเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการเข้าใจในเกมว่าควรต้องทำอย่างไร ควรต้องวิ่งไปอยู่ในจุดไหนเพื่อทีมจะได้ประโยขน์จากเขามากที่สุด
อีกจุดเด่นคือ โบเว่น เป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลดวลตัวต่อตัวได้ดีมากๆ รวมไปถึงการพาบอลตัดเข้าด้านในก่อนตะบันด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด เพื่อวัดกับนายทวารว่ามีดีพอในการหยุดลูกยิงของเขาได้หรือไม่
นับเฉพาะผลงานในฤดูกาลนี้ โบเว่น มีสถิติง้างเท้ายิงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ เวสต์แฮม ที่จำนวน 56 ครั้ง เป็นรองเพียง มิคาเอล อันโตนิโอ เพียงคนเดียว
นอกจากนั้นยังเป็นรองดาวซัลโวของทีม ภายหลังซัดในเกมลีกไปได้ 6 ตุง ส่วนชาร์ตแอสซิสต์ก็เป็นเขาที่ครองเบอร์ 1 ของทีมที่จำนวน 7 ครั้ง
ฉะนั้นแล้วไม่แปลกเลยที่เนื้อตัวของเขาจะหอมฉุยได้รับความสนใจจากหลายทีมใหญ่ในอังกฤษ เพราะด้วยฝีเท้าที่ยังคงพัฒนาได้ รวมไปถึงอายุการใช้งาน ทำให้อนาคตของ โบเว่น แลดูสดใสมากเหลือเกิน
แม้วันนี้เขาอาจจะไม่ใช่นักเตะที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่เราเห็นคือการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา จากนักเตะในคอนเฟอเรนซ์ลีก สู่สตาร์ในลีกรองอย่าง แชมเปี้ยนชิพ ก่อนกลายเป็นนักเตะแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก
ในวัย 25 ปี ชีวิตของ โบเว่น ถือว่ามีพัฒนาการแบบก้าวกระโดด และคงจะไปได้ไกลกว่านี้อีกแน่นอน
- Paolinho -
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม