2-3 วันที่ผ่านมา หลายท่านน่าจะได้เห็นข่าวที่ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า สั่งแบน ซามีร์ นาสรี่ อดีตแข้งคนดังจากวงการลูกหนังเป็นเวลา 6 เดือน โทษฐานที่ใช้สารกระตุ้นเกินกำหนด ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็เป็นแข้งไร้สังกัดอยู่ด้วย ทั้งที่เพิ่งจะอายุแค่ 30 ปีเท่านั้น
มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตค้าแข้งของอดีตดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส วันนี้เรามีไทม์ไลน์ไล่เรียงเหตุการณ์ที่น่าสนใจ และวีรกรรมแสบๆ ของเขามาฝากกัน ไปดูกันได้เลยครับ - ในวัย 10 ขวบ นาสรี่ เซ็นสัญญาเข้าร่วมอะคาเดมี่ของ โอลิมปิก มาร์กเซย - ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ "โอแอ็ม" เป็นครั้งแรก โดยฤดูกาล 2004/05 นาสรี่ ได้รับโอกาสลงเล่นไปถึง 25 เกม ซึ่งถือว่ามากพอสมควรสำหรับเด็กอายุ 17 ปี แถมยังยิงได้ 1 ประตูด้วย - ถูก เรย์ม็องด์ โดเมเน็ค กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ในยุคนั้น เรีกยตัวติดธง "ตราไก่" ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก ในเกมอุ่นเครื่องกับ ออสเตรีย เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ด้วยวัย 19 ปี ซึ่ง นาสรี่ ได้ให้สัมภาษณ์หลังได้เปิดซิงในนามทีมชาติว่า "รู้สึกมีความสุข และภาคภูมิใจอย่างมาก" - หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีกับ มาร์กเซย มา 4 ฤดูกาล ผลงานก็ไปเข้าตา อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล ที่ยอมควักเงิน 14 ล้านปอนด์ ดึงตัวมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้มาฟูมฟัก โดย "เจ๊เหี่ยว" ก็พยายามเข็นเต็มที่ส่งลงสนามเป็นประจำ จบฤดูกาล 2008/09 เจ้าตัวได้ลงไปมากถึง 44 เกม ทำได้ 7 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ - ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไปทำศึกยูโร 2008 แต่ก็ไม่ใช่ในฐานะตัวจริง ยิ่งไปกว่านั้น ฝรั่งเศส ก็จอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม โดยเก็บได้แค่คะแนนเดียวจากการเสมอ โรมาเนีย 0-0 ส่วนอีก 2 เกมแพ้ต่อ อิตาลี และ ฮอลแลนด์ - ช่วงปลายปี นาสรี่ โดนเพื่อนร่วมทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" และรุ่นพี่ในทีมชาติอย่าง วิลเลี่ยม กัลลาส เขียนหนังสือด่าว่าเป็นพวกทัศนคติแย่ และไม่มีมารยาท จน นาสรี่ ต้องออกมาสวนกลับ ทำให้เกิดความบาดหมางกันระหว่างทั้งคู่ ไม่คุยกันเลยตลอดเวลาที่เล่นร่วมกันที่ อาร์เซน่อล - ฟอร์มตกลงจากฤดูกาลที่แล้วเล็กน้อย เริ่มมีอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวน ทำให้ทั้งฤดูกาล 2009/10 ได้ลงเล่นรวมทุกรายการไปแค่ 34 นัด ยิงได้ 5 ประตู - ด้วยฟอร์มที่ดรอปลง บวกกับปัญหากับรุ่นใหญ่ในทีมอย่าง กัลลาส ทำให้ นาสรี่ ถูกเรียกติดทีมชาติเพิ่มไปอีกแค่ 3 นัด - มีข่าวลือว่า นาสรี่ ได้เรียกพรรคพวกไปดักรอทำร้ายร่างกาย กัลลาส หน้าโรงแรมที่กรุงปารีส เคราะห์ดีที่ กัลลาส รอดมาได้เพราะตอนนั้นเดินอยู่กับเพื่อนที่เป็นตำรวจพอดี - ไม่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติไปสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งวงในว่ากันว่า กัลลาส คนเดิมที่เข้าไปคุยกับ โดเมเน็ค ว่าอย่าเรียกตัวไปด้วย เพราะจะทำให้บรรยากาศในแคมป์เสียหาย - อย่างไรก็ตาม นาสรี่ ซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 22 ปี ยังให้สัมภาษณ์เชิงบวก ยอมรับว่าเสียใจ แต่มันก็จะทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น และจะต้องพยายามทำงานให้หนักกว่าเดิม และมั่นใจว่าบอลโลกครั้งหน้าปี 2014 จะต้องได้ไปแน่นอน - ด้านผลงานกับต้นสังกัด ในฤดูกาล 2010/11 ถือว่าเจ้าตัวกลับมาทำได้ดีอีกครั้ง และเริ่มตกเป็นเป้าหมายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยซีซั่นนั้นได้ลงเล่นทั้งสิ้น 46 นัด ซัดไป 15 ประตู แถมมีชื่อเข้าชิง 2 รางวัลใหญ่ของ พีเอฟเอ นั่นคือนักเตะยอดเยี่ยม และ ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาล แต่ก็ต้องแพ้ต่อ แกเร็ธ เบล และ แจ็ค วิลเชียร์ - หลังจากอยู่ร้างแชมป์กับ อาร์เซน่อล มา 3 ฤดูกาล นาสรี่ ก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการย้ายไปหาความสำเร็จกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ให้ความสนใจอยู่ ท้ายสุด เวนเกอร์ ก็รั้งไม่ไหวต้องยอมขายไปด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และที่นี่แหละที่ทำให้ นาสรี่ ได้แจ้งเกิดเต็มตัว เพียงแค่ฤดูกาลแรกก็มีส่วนช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ โดยลงเล่นไปมากถึง 46 เกม รวมทุกรายการ - เพราะทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ แมนฯ ซิตี้ ทำให้ นาสรี่ ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดลุยศึกยูโร 2012 โดยคราวนี้ กัลลาส โจทย์เก่าไม่ได้ติดทีมไปด้วยแล้ว แถมกุนซือก็เปลี่ยนใหม่เป็น โลร็องต์ บล็องก์ ซึ่ง "ตราไก่" ก็ไปไกลได้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนจะพ่ายให้ สเปน ไป 2-0 - หลังตกรอบ นาสรี่ หงุดหงิดสุดๆ และมีปากเสียงกับทั้งแฟนบอลและนักข่าว ถึงขนาดเกือบวางหมัดใส่กัน ทำให้โดนแบนจากทีมชาติไปพักนึง - ส่วนผลงานกับสโมสร ในฤดูกาลนี้ก็ดรอปลงไปบ้าง ไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือ ทำให้โดนสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ที่ยังแค้นอยู่ที่กระสันจะย้ายทีมจะตัวสั่นล้อเลียน - นาสรี่ ที่หงุดหงิดกับทั้งฟอร์มของตัวเอง และผลงานของทีมชาติด่ากลับแฟนปืนได้แสบสันรูทวารว่า "ผู้คนที่ อาร์เซน่อล ชอบบอกว่าผมย้ายมาอยู่กับ ซิตี้ เพราะเงิน มันก็เรื่องของคุณอะนะ ผมขอให้ต่างคนต่างอยู่ไปเถอะ พวกคุณควรไปฉลองกับการลุ้นที่ 3 ที่ 4 ส่วนผมจะสนใจแต่เรื่องการลุ้นแชมป์ เรามันคนละชั้นกัน" - กลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง และสามารถคว้าได้ทั้งแชมป์ลีก และ ลีกคัพ โดยตลอดฤดูกาล 201/14 ลงเล่นไป 46 นัด ยิง 11 ประตู - ไม่ถูก ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส เรียกติดทีมชุดทำศึก ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล - ผิดหวังอย่างหนัก ออกมาด่ารัวๆ และแสดงอาการงอนชัดเจน ไม่ใช่แค่ นาสรี่ คนเดียวที่ไม่พอใจ แฟนสาว อนาร่า ก็เอาด้วย ทวิตส์ด่าเละเทะ โดยข้อความเด็ดมีใจความว่า "ฝรั่งเศส แม่งห่วยแตก เดส์ช็องส์ ปัญญานิ่ม ไอฟาย โค้ชบ้าอะไรวะเนี่ย" - 9 สิงหาคม 2014 ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ ด้วยวัยแค่ 27 ปี ลงเล่นไป 41 นัด ยิงได้ 5 ลูก แถมบอกว่าไม่เคยอยากลงรับใช้ชาติอยู่ตั้งแต่ต้นละ! - ระดับสโมสร เริ่มตกเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง ได้ลงเล่นน้อยลงเนื่องจาก แมนฯ ซิตี้ ซื้อตัวใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น แต่ก็สะบัดหมึกต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปถึงปี 2019 - ฤดูกาล 2015/16 เป็นฤดูกาลที่แย่มากๆ ของ นาสรี่ เรียกได้ว่าอาจเป้นจุดหักเห ให้ทุกวันนี้ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เป็นได้ เพราะเจ้าตัวเจออาการบาดเจ็บเล่นงานต้องพักยาวครึ่งปี และได้ลงเล่นทั้งซีซั่นไปแค่ 8 เกม - หลังจากหายเจ็บก็ถูกปล่อยให้ เซบีย่า ยืมตัวในฤดูกาล 2016/17 ซึ่งก็ถือว่าเล่นพอใช้ได้ ลงไป 30 นัด ยิงได้ 3 ประตู - มีนักข่าวไปถามถึงการกลับมารับใช้ทีมชาติ เจ้าตัวตอบว่า "ต่อให้พ่อกูมาเป็นกุนซือ กูก็ไม่กลับไปเล่นให้หรอก!" - แมนฯ ซิตี้ เสนอขายให้ เซบีย่า แต่ เซบีย่า ไม่เอา ทีมอื่นก็ไม่มีใครสนใจ อาจเพราะความเกเรของเจ้าตัวนั่นแหละ - 21 สิงหาคม แมนฯ ซิตี้ ขายเลหลังให้ อันตาลยาสปอร์ส ในตุรกี แบบสุดถูก 3.5 ล้านยูโร - 31 มกราคม โดน อันตาลยาสปอร์ส ยกเลิกสัญญา หลังลงสนามไปเพียง 8 นัด ยิงได้ 2 ประตู สาเหตุว่ากันว่ามีปัญหาเรื่องพฤติกรรม และค่าเหนื่อยก็แพงเกินกว่าจะแบกรับไหว - ทันทีที่เป็นแข้งฟรีเอเย่นต์ ก็มีหลายทีมให้ความสนใจ เนื่องจากดีกรี เกียรติประวัติและประสบการณ์ยังขายได้ อายุก็แค่ 30 ปี โดยมีทั้ง เวสต์แฮม, เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก และ ลาส พัลมาส ที่จ้องอยู่ - แต่แล้วความหวังที่จะได้ทีมใหม่ก็ต้องมลายหายวับไปทันตา เมื่อโดน ยูฟ่า สั่งแบน 6 เดือน จากกรณีที่กล่าวไปข้างต้น คงไม่มีทีมไหนบ้าเซ็นล่วงหน้าจ่ายค่าเหนื่อยให้ฟรีๆ แน่นอนไม่น่าเชื่อว่าปีที่แล้ว นาสรี่ ยังเป็นนักเตะของ ทีมจ่าฝูงศึก พรีเมียร์ลีก และเป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่เลย ผ่านไปเพียงพริบตา กลายเป็นแข้งไร้สังกัด แถมโดนแบนยาว นี่แหละหนาชีวิต อะไรมันก็ไม่แน่นอน แต่ดูจากพฤติกรรม คำพูด และการสร้างโจทย์ไว้เยอะแยะมากมาย เชื่อว่าต้องมีคนแอบสะใจอยู่บ้างแหละ โดยเฉพาะสาวก "เดอะ กันเนอร์ส"
ชิน ชินพัฒน์