logo-heading

หลังจากที่ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย บุกไปเสมอกับเวียดนาม แบบสุดมันส์และดุเดือด 2-2 ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ชนิดที่เกือบจะเก็บชัยได้แต่ท้ายเกมดันพลาดโอกาสปิดกล่องไปอย่างน่าเสียดาย แต่สำหรับฟอร์มโดยรวมถือว่าทำได้ดีไฉไลไม่น้อย

วันนี้ทีมงานขอบสนามบอลไทยจะพามาสรุปประเด็น 5 ข้อที่เกิดขึ้นภายในเกมนี้ว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

มาโน่ ปรับเปลี่ยนหมากต่อเนื่อง

เฮดโค้ชลูกครึ่งบราซิล-เยอรมัน ปกติจะเลือกใช้แผน 4-4-2 ส่วนใหญ่ แต่สำหรับเกมนี้เรียกว่ามาแปลกเลยก็ว่าได้ เลือกปรับเป็น 3-5-2 ที่เน้นแพ็คตรงกลาง ใช้กองหน้าคนเดียว มีการเปลี่ยนนักเตะบางส่วนโดยผู้รักษาประตูยังคงไว้ใจ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล เฝ้าเสาเป็นเกมที่สอง ต่อด้วยใช้ อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนล่าตาข่าย แทน ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยังไม่เต็มร้อย และเลือกใช้ ปรเมศย์ อาจวิไล กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ โดยดร็อป บดินทร์ ผาลา และเอกนิษฐ์ ปัญญา

เสียประตูจากลูกโยนอีกครั้ง

เริ่มเกมครึ่งแรกดูเป็นทางฝั่งเวียดนามที่ได้บุกกดดันไทย หาจังหวะยิงหลายครั้ง ควบคู่กับการเล่นเกมรับด้วยความรัดกุม หาโอกาสสวนกลับเน้นๆ กระทั่งในนาทีที่ 24 ไทยมาเสียประตูจากการโจมตีด้วยลูกโยนเข้าไปในกรอบเขตโทษโดย เหงียน เทียน ลินห์ ศูนย์หน้าดาวซัลโวประจำทีมขึ้นโหม่งคนเดียวเป็นประตูออกนำ 1-0 ซึ่งเป็นอีกเกมที่ ช้างศึก เผลอง่ายกับการรับมือลูกซึ่งเป็นจุดที่ต้องแก้ไขต่อไป

ช็อตจุดโทษที่ควรได้

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่พูดถึงให้ความสนใจในเกมก็คือช็อตที่นักเตะของทีมชาติไทยได้โอกาสยิงส่องไป และลูกบอลไปโดนแขนคู่แข่งภายในกรอบเขตโทษ ซึ่งจังหวะนี้หลายคนมองเป็นแฮนด์บอล ควรได้เป็นลูกจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินชาวเกาหลีใต้กลับนิ่งเฉยมองว่าไม่เป็นจังหวะจุดโทษแต่อย่างใด

กลับเข้าสู่เกม ได้คืนไวในครึ่งหลัง

ภาพรวมในครึ่งแรก 45 นาที ไทยถือว่าไม่ขี้เหร่เลยพยายามเช็ทเกมจากตรงกลางได้ดี แต่โอกาสยิงเน้นๆ ค่อนข้างมีน้อย เช่นเดียวกับอุปสรรคต่าง ๆ ที่พบเจอทั้งจังหวะการเล่นตุกติกยั่วอารมณ์ของคู่แข่ง ตรงนี้ถือว่าไทยรับมือได้ดีต้องชื่นชม

ส่วนครึ่งหลัง มาโน่ กลับไปปลุกขวัญลูกทีมแก้เกมกันใหม่ จนได้ประตูตีเสมอไวจากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน จ่ายให้ ปรเมศย์ อาจวิไล เลี้ยงหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษและล็อคเข้าในสังหารเข้าไปอย่างเหนือชั้นในนาทีที่ 48 โดยประตูตีเสมอช่วยคลายความกดดันกับทีมไปได้ไม่น้อย จากนั้น นาทีที่ 63 มาได้ประตูพลิกแซงนำ 2-1 จาก ธีราทร ผ่านบอลให้ สารัช อยู่เย็น หลุดเดี่ยวซัดเข้าไปไม่เหลือและไม่ล้ำหน้าแต่อย่างใด

 

เกือบปิดบัญชีท้ายเกม แต่ยังกุมความได้เปรียบ

หลังจากพลิกขึ้นนำโอกาสการเข้าทำของไทยมีมากขึ้น มีหลายครั้งที่น่าจะเป็นประตู แต่จบได้ไม่เฉียบขาด ทำให้ท้ายเกมในนาที 88 เวียดนามมาได้ประตูตีเสมอ จาก วู วาน ทันห์ ซัดโทนนอกกรอบเข้าไปสุดสวย

ไทยเร่งเดินหน้าเอาประตูคืนเพื่อกลับมาแซงนำให้ได้อีกครั้งและช็อตที่แฟน ๆ รู้สึกเสียดายและเกือบที่จะสมบูรณ์แบบก็มาถึงเมื่อ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นตัวสำรองได้โอกาสสวนกลับหลุดเดี่ยวแล้วยิงไปติดเซฟของ ดัง วาน ลัม พลาดโอกาสได้ประตูตอกฝาโรงไป

ซึ่งผลเสมอในเกมนี้ทำให้ทีมชาติไทยกุมความได้เปรียบด้วยกฎอเวย์ถึง 2 ประตูมาตุนเอาไว้ล่วงหน้าก่อนกลับมาเล่นในบ้านเกมที่สอง

แน่นอนว่าหนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้โดดเด่นเกมนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ธีราทร บุญมาทัน ที่ทำไป 2 แอสซิสต์ คุมจังหวะผ่านบอลในแดนกลางได้ยอดเยี่ยมหมดจด แถมได้รับตำแหน่งเป็นแมนออฟเดอะแมตช์จาก AFF ไปอีกด้วย

โปรแกรมรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 ทีมชาติไทยเตรียมเปิดบ้านรับ เวียดนาม วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2566 ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เวลา 19.30 น.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline