logo-heading

เริ่มที่ดีลแรกยังไงก็ต้องยกให้ดีลของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทย ณ ตอนนั้น ที่ย้ายจาก ลีโอ เชียงราย มาอยู่กับ บีจี ปทุม ช่วงกลางซีซั่น 2018 ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนที่ต้องพูดถึงเพราะนี่คือดีลที่มีมูลค่าการย้ายตัวที่แพงที่สุดในช่วงเวลานึง และอีกเรื่องที่จะไม่พูดไม่ได้ปีนั้นเป็นที่ บีจี เสริมกระจายแต่บทสรุปคือ "ตกชั้น"

 

ต่อมาเป็นอีกดีลที่สะท้านไทยลีกคือดีลที่ บีจี ปทุม ไปคว้า สารัช อยู่เย็น อีกหนึ่งดาวเตะดีกรีทีมชาติมาจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งดีลนี้มันเกิดขึ้นในช่วงตลาดซื้อขายรอบพิเศษของฤดูกาลปี 2020/21 ที่สะท้านเพราะการมาของ "ตัง" นั้นมาปุ๊ปได้แชมป์ไทยลีกปั๊ป เรียกว่า 30 กว่าล้านบาทที่ลงทุนไปได้ผลดีเกินคาดจริงๆ 

ดีลที่สามจริงๆ มีหลายคนทีน่าจะถูกจับลิสต์เข้ามา เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาดีลของ บีจี นั้นเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก แต่เราขอเอาดีลที่มีผลงานแบบจับต้องได้ และขึ้นแท่นเป็นคนสำคัญทันทีนั่นคือดีลของ ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทยที่ย้ายมาจาก ชิมิสึ เอส พัลส์ ทีมในเจลีก ด้วยค่าตัวรวๆ 25 ล้านบาท แม้เม็ดเงินในการซื้อตัวจะไม่ได้เยอะจนต้องว้าว แต่อยากให้ว้าวกับการกลับมาของ "มุ้ย" ตั้งแต่เมื่อปี 2020/21 จนถึงตอนนี้เขายังเล่นอยู่ในระดับสูงเหมือนเดิม จนทำให้หลายคนที่เคยบอกว่า "มุ้ยหมดแล้ว" ต้องถอดคำพูดกันทีเดียว 

มาถึงดีลที่สี่เป็นของ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่ฮือฮาพอสมควร เพราะไม่มีข่าวการย้ายมาก่อนหน้านี้เลย จนกระทั่งวันที่ดีลลุล่วงที่ทั้งสองทีมประกาศ ซึ่งตอนนั้นแฟนๆ กว่างโซ้ง ช็อคมากกับการเสียหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของทีมมาให้บีจี ส่วนแฟน บีจี ก็คาดหวังเป็นอย่างมากว่าคู่กองกลางทีมชาติ "เต้ + ตัง" จะพาทีมบินสูงไปจนถึงสามารถคว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง แต่สุดท้ายจบฤดูกาลนี้ด้วยมือเปล่า ซึ่งต้องยอมรับว่าตรงว่า ณ ตอนนี้ เต้ พิธิวัตต์ ยังเล่นได้ไม่ดีเหมือนตอนที่เป็นกัปตันกว่างโซ้ง ถึงอย่างนั้นดีลของเขาที่มีมูลค่าแตะหลัก 40 ล้านบาทก็สนั่นไทยลีกได้พอสมควร 

 

และดีลสุดท้ายดีลที่ ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากับดีลของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติไทย ที่เพิ่งมาจาก คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ทีมระดับแชมป์เจลีกสู่อ้อมอก บีจี ปทุม ด้วยค่าตัวราว 65 ล้านบาท นอกจากจะเป็นดีลสุดว้าวที่สนั่นไทยลีกประจำฤดูกาลนี้แล้ว ยังเป็นดีลแข้งไทยที่ย้ายทีม (ในไทยลีก) มูลค่าแพงที่สุดดีลใหม่อีกด้วย ไม่ต้องพูดอะไรเยอะจากนี้มารอดูกันผลงานของ "เจ บีจี" กันว่าเขาจะพาทีมไปถึงฝั่งฝันได้ไกลแค่ไหน

 

บอลพาดู 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline