logo-heading

5 ปัจจัยสำคัญที่จะส่งให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในรอบ 20 ปี

20 ปีเต็มๆแล้วนะครับที่ พลพรรคปืนโต ไม่ได้สัมผัสกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ยุคไร้พ่ายเมื่อฤดูกาล 2003/04 นับได้ว่าเป็นอะไรที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับแฟนบอล อาร์เซน่อล

ปีทีแล้วเป็นหนึ่งในปีที่พวกเขาใกล้เคียงที่สุดในการทำมันได้อีกครั้ง แต่ผลสุดท้ายก็ต้องมาพบกับความผิดหวังเฉกเช่นครั้งอดีต

แต่ในปีนี้ อาร์เซน่อล กลับมาพร้อมกับความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นทั้งโค้ช รวมถึงตัวนักเตะ 

แม้ว่าโอกาสจะเป็นรองทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีอันดับในตารางคะแนนอยู่เหนือกว่า แต่ถ้าดูจากฟอร์มการเล่นในตอนนี้ต้องบอกได้เลยว่า ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่ได้เป็นสองรองใคร

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม จะพามาดู 5 ปัจจัยที่พา ไอปืนใหญ่ กลับมาเถลิงบรรลังค์แชมป์อีกครั้ง ว่าจะมีอะไรบ้างมาติดตามรับชมไปพร้อมๆกันครับ

[ ครบเครื่องเรื่องต้มยำ ]

แม้ว่าจะมีปัญหาในเรื่องของการทำประตูในช่วงต้นฤดูกาล จนแฟนๆต่างเรียกร้องให้ซื้อศูนย์หน้าตัวใหม่ในช่วงตลาดเดือนมกราคม แต่ด้วยปัญหาเรื่องการเงินที่เสี่ยงต่อการถูกกฎ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ เล่นงาน 

ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า ไม่มีทางเลือก ต้องใช้แผนสองด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นให้หลากหลาย และพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีมากยิ่งขึ้น

ทั้งการเจาะในพื้นที่ตรงกลาง รวมถึงในพื้นที่ฮาฟสเปซ อีกทั้งยังยกระดับเกมริมเส้นที่เป็นจุดเด่นให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นไปอีก 

และที่สำคัญ มิเกล อาร์เตต้า ยังปลุกวิญญาณหน่วยนักล่าสังหารของทีมให้ตื่นขึ้นจากหลุมอีกครั้งทั้ง บูกาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ต่างพากันโชว์ฟอร์มได้กระฉูดแตกเหลือเกินในช่วงที่ผ่านมา

ถึงจะไม่มีกองหน้าเบอร์ 9 ที่เป็นศูนย์กลางในการถล่มตาข่ายเหมือน ลิเวอร์พูล ที่มี โม ซาลาห์ หรือ แมนฯ ซิตี้ ที่มี เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แต่ อาร์เซน่อล กลับมีเกมรุกที่ทรงอนุภาพมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ที่ถลุงตาข่ายคู่แข่งไปแล้วถึง 68 ประตู

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 7 นัดที่ผ่านมา ไอ้ปืนใหญ่ กระซวกคู่แข่งไปแล้วถึง 31 ประตู เฉลี่ยนัดละ 4.4 ประตูเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังมีทีเด็ดในเรื่องของลูกตั้งเตะที่เป็นหนึ่งในอาวุธเด็ดทีเล่นงานคู่แข่งได้เสมอ โดยพวกเขาได้ประตูจากลูกตั้งเตะถึง 18 ประตู มากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก อีกเช่นเดียวกัน

นอกจากเกมรุกจะดุดันกระซวกไส้แล้ว เกมรับเองก็ยังเหนียวแน่น แข็งแกร่ง ราวกับหินผา โดยมีคู่หูสุดแกร่งอย่าง กาเบรียล มากัลเญส และ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่ยืนบัญชาการเกมรับ

รวมถึงยังมี มิดฟิลด์หมายเลข 6 อย่าง เดแคลน ไรซ์ อีกหนึ่งในคีย์แมนสำคัญของทีม ที่ยืนปักหลักหน้าแผงหลังคอยปัดปวาดเกมรุกของคู่แข่งให้สิ้นซาก โดยพวกเขาเสียไปเพียงแค่ 23 ประตูเท่านั้น น้อยที่สุดใน พรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่า "ครบเครื่องเรื่องต้มยำจริงๆ" สำหรับ พลพรรคเดอะกันเนอร์ส

[ เก็บชัยได้สม่ำเสมอ ]

อีกหนึ่งคุณสมบัติของทีมที่จะเป็นแชมป์นั่นก็คือ การเก็บชัยชนะติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง หรือเรียกอีกอย่างว่า การเข้าเบรค นั่นเอง 

โดยสถิติของทีมที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก มักจะมีช่วงเวลาที่เข้าเบรคชนะติดต่อกันหลายๆเกม ซึ่งนับได้ว่าเป็นอะไรที่สำคัญเอามากๆ

อย่างในฤดูกาลที่แล้ว แมนฯ ซิตี้ ทำสถิติชนะต่อเนื่องได้ยาวนานที่สุด 12 นัดติดต่อกัน ในช่วงท้ายฤดูกาล ส่งผลให้ทัพ เรือใบสีฟ้า ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปได้ในท้ายที่สุด

แต่ในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เป็นทีมที่เข้าเบรคได้นานที่สุดจนถึงตอนนี้อยู่ที่ 7 นัดติดต่อกัน ต้องมารอดูกันว่า ลูกทีมของ มิเกล อาร์ตต้า จะสามารถคว้าชัยได้ต่อเนื่องไปเทียบเท่ากับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลก่อนๆได้หรือไม่

[ ตัวเจ็บเริ่มคัมแบ็ค ]

อีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ อาร์เซน่อล พลาดแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อนนั่นก็คือ การบาดเจ็บของผู้เล่นคนสำคัญ อย่าง วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่มีอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายซีซั่น 

แต่ในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล มีขุมกำลังเชิงลึกที่ดีมากขึ้นกว่าเดิม ผู้เล่นสามารถทดแทนตำแหน่งกันได้มากกว่าเมื่อฤดูกาลก่อน

รวมถึงผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บเริ่มที่จะทยอยกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง อย่างเกมที่ผ่านมาที่บุกไปถล่ม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 6-0 เราได้เห็น กาเบรียล เชซุส และ โธมัส ปาร์เตย์ ที่มีอาการบาดจ็บตั้งแต่ปีที่แล้ว สามารถกลับคืนสู่สนามอีกครั้ง

นอกจากนี้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ , โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เองก็จะกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในเดือนนี้ รวมไปถึง เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ ที่บาดเจ็บ ACL ตั้งแต่ต้นซีซั่น ก็สามารถกลับมาฝึกซ้อมกับทีมได้แล้ว

[ มินิลีก ผลงานดีสุด ]

นี่คงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากฤดูกาลก่อนๆคือ การต่อการกับทีมที่วรรณะ ชาติตระกูลใกล้เคียงกันได้อย่างสูสี 

ถ้าว่าด้วยเรื่องของสถิติการแข่งขัน "มินิลีก" ระหว่างทีมบิ๊กซิกด้วยกันเองในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล คือทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ชนะ 3 เสมอ 3 ยังไม่แพ้ใคร ด้วยการเปิดรังชนะทั้ง แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด 

แต่ทว่าสิ้นเดือนมีนาคมนี้ อาร์เซน่อล จะมีคิวยกพลบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ถึงถิ่น เอติฮัด สเตเเดี้ยม และจะเป็นอีกหนึ่งที่มีผลอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในปีนี้

[ มีประสบการณ์จากฤดูกาลที่แล้ว ]

ฤดูกาลที่ผ่านมาคงไม่มีใครคาดคิดหรอกครับว่า อาร์เซน่อล จะมีโอกาสได้ลุ้นแชมป์แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันลงล็อคพอดี แต่น่าเสียดายจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายอย่าง “ประสบการณ์” ที่เป็นเหตุให้ อาร์เซน่อล ยังคงไม่ถึงฝั่งฝัน 

แต่ในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล กลับมามาพร้อมกับทีมที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยประสบการณ์การ และความมุ่งมั่นจากความผิดหวังเมื่อฤดูกาลก่อน

ณ ตอนนี้เกม พรีเมียร์ลีก ได้เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลแล้ว เหลือเพียง 11 นัดเท่านั้น คงต้องมาติดตามกันว่า มิเกล อาร์เตต้า จะทำให้เหล่าบรรดา เดอะกูนเนอร์ส ไปถึงฝั่งฝันด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในรอบ 20 ปี ได้หรือไม่ หรือจะต้องพบกับความผิดหวังเหมือนครั้งอดีตที่ผ่านมา

-บีเบลล์ กูนเนอร์-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline