logo-heading
เพื่อน ๆ หลายคนน่าจะทราบดีแล้วว่า พรีเมียร์ลีก มีเบรกหนีหนาวในฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรก ซึ่งวันนี้ขอบสนามจะพาทุกท่านไปรู้จักเบรกหนีหนาว และทำไมพรีเมียร์ลีกถึงมีเบรกหนีหนาวที่ไม่เหมือนใคร สำหรับเบรกหนีหนาวคือ ช่วงฤดูหนาวของยุโรป โดยเฉพาะช่วงเดือน ธันวาคม ถึง มกราคม อากาศมักจะหนาวเป็นพิเศษ อุณหภูมิบางที่ไม่ใช่แค่เป็นเลขตัวเดียวแต่มีติดลบ รวมถึงหิมะโปรยปรายลงมาเป็นอุปสรรคต่อการเล่น ทำให้ลีกใหญ่ในยุโรปตัดสินใจ เบรกหนีหนาวกันทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศเลวร้าย ที่เป็นทั้งอุปสรรคต่อนักเตะและคนมาดู ยกตัวอย่างเช่น เยอรมัน ที่อากาศหนาวไม่แพ้อังกฤษ จะเบรกหนีหนาวกันช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงเกือบกลางเดือนมกราคมเป็นเวลาราว 3 สัปดาห์, อิตาลี จะเบรกช่วงต้นเดือนมกราคมเป็นเวลาราว 2 สัปดาห์ ส่วนสเปนที่อากาศไม่หนาวเท่า แต่ก็มีการเบรช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นมกราคม เป็นเวลาประมาณ 10-12 วัน อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันดีว่าพรีเมียร์ลีก ไม่เคยมีเบรกหนีหนาวแถมช่วงที่ลีกใหญ่พักกัน พรีเมียร์ลีกกลับมีโปรแกรมที่ถี่ยิบเรียกว่าช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ยาวตั้งแต่คริสต์มาสจนถึงต้นเดือนมีนาคม ประมาณว่า 3 วันเตะที การเตะตะบี้ตะบันเตะในช่วงนี้จึงปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน เพราะฟุตบอลถือเป็นกีฬาประจำชาติ ที่ผู้คนแดนผู้ดีดูกันได้ทุกเพศทุกวัย จึงไม่แปลกที่มันเปรียบเสมือน “กีฬาครอบครัว” ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ครอบครัวจูงลูก จูงหลาน เข้ามาชมเกมเป็นประจำ และยิ่งยุคสมัยเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็กลายเป็นธุรกิจจึงไม่แปลกที่ช่วงปลายปี ตั๋วและยอดผู้ชมการถ่ายทอดสดจะสูงขึ้นกว่าปกติ เพราะนี่ถือเป็นช่วงหยุดงานปิดเทอมเล็กของชาวต่างชาติด้วย ซึ่งหยุดงานกันตั้งแต่คริสต์มาสและพร้อมเข้ามาชมเกมกันเต็มสนาม นอกจากนี้ยังมีเหตุผลเรื่องที่ทีมอังกฤษต้องเตะบอลถ้วยในประเทศเยอะกว่าชาวบ้านทำให้การจัดโปรแกรมไม่ลงตัว หลังมีการถกประเด็นเรื่องนี้มานานหลายปี ว่าถึงเวลาหรือยัง ที่บอลลีกผู้ดีควรจะต้องมีเบรกหนีหนาวบ้างแล้ว เพื่อช่วยให้นักเตะไม่กรอบ และการแข่งขันไม่ต้องเจอกับช่วงที่อากาศเป็นอุปสรรค นักเตะเองก็มีครอบครัว และการทำศึกหนักถี่ยิบไม่ใช่ผลดีเลย สุดท้ายพรีเมียร์ลีกก็ออกไอเดียเบรกหนีหนาวแบบไม่เหมือนใครออกมา นั่นคือการสลับกันเตะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ การเบรกหนีหนาวในซีซั่น 2019/20 พรีเมียร์ลีกจัดเอาไว้ในการแข่งขันนัดที่ 26 ของฤดูกาลต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยการแข่งขันทั้งหมด 10 แมตช์ จะแบ่งออกเป็นเตะเสาร์-อาทิตย์ ที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 4 เกม และเตะเสาร์-อาทิตย์ ที่ 15-18 กุมภาพันธ์ อีก 6 เกม นั่นทำให้แต่ละทีมมีโอกาสพักราว 2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าเตะนัดที่ 26 ก่อนค่อยพัก หรือจะพักก่อนเตะนัดที่ 26 ซึ่งการเบรกหนีหนาวแบบใหม่นี้ จะใช้กับโปรแกรมของพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ลีกรองลงไปยังคงเตะกันเหมือนเดิม เพราะมีถึงดิวิชั่นละ 24 ทีม โปรแกรมเตะแน่นมาก เกินกว่าจะขยับได้ แต่ทว่าแม้พรีเมียร์ลีก มีเบรกหนีหนาว แต่หากต้องรีเพลย์แมตช์ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ อย่าง สเปอร์ส หรือ ลิเวอร์พูล ก็ต้องลงแข่งขันในช่วงพักเบรกอยู่ดี นั่นคือช่วงวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ ทำให้ระยะเวลาการปิดเทอมของทีมเหลือน้อยลง นั่นเป็นเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งมีปัญหาในการกรำศึกหนักตลอดทั้งซีซั่น ตัดสินใจจะส่งนักเตะ U23 ลงเล่นในเกมนัดรีเพลย์ เพื่อให้นักเตะชุดใหญ่ได้พัก ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะพวกเขาแบ่ง 2 ทีมเพื่อเล่นบอลถ้วยในประเทศอย่างลีกคัพ และไปแข่งสโมสรมาแล้ว ทั้งหมดคือสาระน่ารู้เกี่ยวกับเบรกหนีหนาวของอังกฤษ ซึ่งแม้ไม่เหมือนใครแต่อย่างน้อยก็ยังดีที่นักเตะมีโอกาสได้พักผ่อนอยู่กับครอบครัว และฟื้นฟูร่างกายหายใจหายคอบ้าง แฟนบอลชาวไทยเองก็ได้พักผ่อนบ้างเช่นเดียวกันเพราะช่วงที่ผ่านมา มีทั้งเตะถี่ยิบและดึกหรือเช้าบ้านเราหลายเกม จนหมีแพนด้าทักถามหากันหลายราย - เปี๊ยกบางใหญ่ -
logoline