logo-heading

คุณเคยได้ยินคำโบราณที่ว่า "เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์" กันหรือเปล่าครับ มันหมายความว่า "ขอเป็นคนใหญ่ ในที่เล็กๆ" ซึ่งผมกำลังเปรียบเปรยถึง แจ็ค กรีลิส กัปตันทีม แอสตัน วิลล่า ที่ต่อให้อยู่ทีมระดับกลางๆ แต่โชว์ฟอร์มกระหึ่ม ไปทั่วทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

จากซีซั่นก่อน ต่อยอดมาถึงซีซั่นนี้ จากที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นยอดเยี่ยมมากยิ่งกว่า และ ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นปีทองของ แจ็ค กรีลิช แบบเต็มตัว เพราะอะไรที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ ลองไปดูความสุดยอดจากผลงาน และ เรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา

- เดอะ แบก วิลล่า

อย่างที่บอกกันเลยว่า "เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางราชสีห์" แต่การเป็นหัวหมาเนี่ย และ ให้มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คุณจะต้องโชว์ฟอร์มให้ดี และ ให้มันสม่ำเสมอ หากจะมีโบนัสคือต้องเตะตาแฟนบอลทีมอื่นด้วย ซึ่งหากย้อนกลับไปซีซั่นก่อน ชื่อเสียงของ แจ็ค กรีลิช ยังไม่โด่งดังเท่าทุกวันนี้ อาจเป็นเพราะช่วงนั้น วิลล่า มีสถานะทีมเกือบตกชั้น พร้อมกับเคยมีข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจ แต่พอเห็นค่าตัวแตะระดับ 60-70 ล้านปอนด์ ก็ร้องยี้ส่ายหัวไม่เอากันแล้ว อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้ แจ็ค กรีลิช พิสูจน์ให้เห็นว่าใครหลายคนคิดผิด เพราะ ฤดูกาลนี้ กรีลิช คือเดอะ แบก ของ วิลล่า อย่างแท้จริง เป็นกัปตันและนักเตะที่ทีมจะขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด โดยจัดแอสซิสต์ไปแล้ว 7 ลูก พร้อมซัดเองอีก 5 ประตู มีส่วนสำคัญในการพาทีมขึ้นมาอันดับ 5 ของตาราง หากจะขยายมากกว่านั้น กรีลิช มีสถิติที่สร้างสรรค์เกมเป็นอันดับต้นๆของ พรีเมียร์ลีก หลายๆประตูของ วิลล่า ก็ขึ้นเกมจากวิสัยทัศน์ของ กรีลิช ทั้งนั้น อย่างเกมล่าสุดที่ต่อให้ สิงห์ผงาด จะพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 แต่เขาถูกทำฟาวล์มากสุดถึง 8 ครั้ง ในเกมเดียว เป็นสถิติสูงอันดับ 2  ซึ่ง ณ ตอนนี้ ถ้าหาก แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสนใจอยากได้ตัวไปร่วมทีม ค่าตัวมีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ เพราะสถานะของ กรีลิช คือคนที่ขาดไม่ได้อีกต่อไปสำหรับ วิลล่า ถ้าจะพรากนักเตะรายนี้ จำเป็นต้องกล้าจ่ายเท่านั้น

- ผลงานกับทีมชาติอังกฤษ เข้าตา

นักเตะเลือด ผู้ดี ที่อาจไม่ใช่ตัวหลัก ไม่ใช่ขาประจำ สำหรับทีมชาติอังกฤษ คุณจำเป็นต้องโชว์ฟอร์มเข้าตาเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสสอดแทรกเข้าไปสู่ขุมกำลัง "สิงโตคำราม" หลายๆคนผ่านเข้ามา และ ก็หลุดออกไป เพราะไม่สามารถรักษาฟอร์มอันสม่ำเสมอได้เลย แต่กับ กรีลิช บอกเลยว่า เขาไม่เพียงแต่จะมีโอกาสเข้ามาสู่ทีมชาติอังกฤษ แบบขาประจำเท่านั้น แต่อาจจะถึงขั้นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้เลย ซึ่ง ยูโร 2020 นี่แหละครับ ไม่แน่ว่าจะเป็นเวทีแจ้งเกิดสำหรับเขา ถ้าไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไปก่อน พูดไปก็จะว่าเยินยอเกินเหตุ แต่ในเกมที่ อังกฤษ เคยพ่ายให้กับ เบลเยี่ยม 0-2 ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก นักเตะที่ได้รับคำชมมากที่สุดก็คือ แจ็ค กรีลิช ทั้งๆที่เพิ่งติดทัพ สิงโตคำราม มาแค่ 5 นัด เท่านั้น โดยเกมที่ อังกฤษ แพ้ให้กับ เบลเยี่ยม 0-2 กรีลิช โชว์ผลงานอันร้อนแรงเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอลเข้าเป้า 89 เปอร์เซนต์, สัมผัสบอลในเขตโทษ 5 ครั้ง, เลี้ยงกินตัวสำเร็จ 4 ครั้ง, สับไก 3 ครั้ง (เข้ากรอบ 1) และ สร้างโอกาส 2 ครั้ง ต่อให้เป็นเด็กหน้าใหม่สำหรับทีมชาติอังกฤษ แต่นักเตะแบบนี้แหละของชอบ เซาธ์เกต ถ้าหากว่าเขามีชื่อติดทีมไป ยูโร 2020 จริงๆ และ ได้ลงสนามเป็นตัวจริง ก็อาจเป็นปีทองสำหรับนักเตะรายนี้ ที่จะได้แจ้งเกิดในเวทีระดับนานาชาติแบบเต็มตัว

- ประสบการณ์สั่งสอน

ย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ กรีลิช ถูกจับตามองอย่างมาก ว่าจะเป็นดาวดวงใหม่แห่งลูกหนังแดน "ผู้ดี" แต่แล้วอนาคตของเขาเหมือนจะดับวูบ กลายเป็นวัยรุ่น "18 ฝน" เสียคนตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อ กรีลิช ถูกตั้งฉายาว่า เป็นนักเลงไอริชขี้เมา  มิดฟิลด์เลือดผสมอังกฤษ-ไอแลนด์ ซึ่งมีฝีเท้าระดับพรสวรรค์ แต่มันมาพร้อมกับนิสัยขี้เมาหยำเป .. หลังความพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซน่อล ในนัดชิง เอฟเอ คัพ 2015 มีคนจับภาพ กรีลิช นอนเมาหมดสติ กลางวันแสกๆ และ ไปเมา “กลางถนน” ในช่วงซัมเมอร์ขณะไปพักร้อนที่ เตเนริเฟ่ อีกทั้งยังมีช็อตเมาเละเทะที่เมือง แมนเชสเตอร์ อีกด้วย เพื่อดัดนิสัย กรีลิช .. กุนซือ วิลล่า ขณะนั้น เรมี่ การ์ด แบนให้เขาลงไปเล่นชุด ยู-21 ประกอบกับ สิงห์ผงาด กระเด็นตกชั้น ทำให้ชื่อเสียงของ กรีลิช ที่เคยถูกคาดหวัง กลายเป็นเด็กที่หลงทางไม่น่าก้าวขึ้นมาระดับท็อปได้อีกแล้ว แต่ประสบการณ์เหล่านั้น มันสอนคน "ให้เป็นคน" กรีลิช สำนึกตัว และ ระลึกได้ว่า พฤติกรรมเหล่านั้น ไม่อาจสร้างให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลระดับท็อปได้หรอก เขากลับมาฝึกซ้อมอย่างหนัก ไม่หนี ไม่ย้ายไปไหน ขอปักหลักอยู่กับ วิลล่า พร้อมคัมแบ็กสู่การเป็นตัวจริงในทีมอีกครั้ง จากนั้นเพียงแค่ 3 ฤดูกาล ก็นำ วิลล่า กลับคืนสู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง ทุกวันนี้ เราแทบไม่ได้เห็นข่าวฉาวของ กรีลิช อีกแล้ว นิสัยปาร์ตี้ ขี้เมา อาจจะมีบ้างในช่วงตอนกักตัว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่อยู่ในช่วงระหว่างการแข่งขัน เขาทำมันอย่างเต็มที่ รู้ว่าอะไรคืออะไร ไม่มีเรื่องชกต่อย เป็นแบบอย่างให้กับแข้งรุ่นน้อง สิ่งเหล่านั้นมันพัฒนาให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นแข้งระดับท็อป ยิ่งเล่น ก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ

- โชว์ฟอร์มสุดตีนใส่ทีมใหญ่

ปกติแล้ว นักเตะที่เข้าชิงผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี โดยเฉพาะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มักจะชื่อจากทีมยักษ์ใหญ่ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล อะไรแบบนั้น แต่ไม่แน่ว่า แจ็ค กรีลิช อาจจะมีชื่อเข้ามาแข่งขันด้วยอีกคน ต่อให้อยู่กับ แอสตัน วิลล่า เรื่องผลงาน ทั้งจำนวนทำประตู หรือ แอสซิสต์ และ ยังมีสถิติส่วนตัว ได้พูดไปแล้ว แต่คะแนนสำคัญที่จะทำให้ กรีลิช ผงาดขึ้นมา ก็คือฟอร์มที่ต้องปะทะกับทีมยักษ์ใหญ่ ซึ่งซีซั่นนี้เกมสุดเซอร์ไพรส์ เปิดบ้านไล่ถล่ม ลิเวอร์พูล 7-2 .. กรีลิช แอสซิสต์ให้เพื่อน 3 ประตู และ ซัดอีก 2 ตุง เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซจริงๆ อย่างเกมที่แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ก็เป็นคนทำแอสซิสต์ให้กับเพื่อนทำประตูด้วย หรือ แม้กระทั่งที่เจอกับ อาร์เซน่อล และ วิลล่า ชนะไป 3-0 เขาก็เป็นคนแอสซิสต์ได้เช่นกัน ฉะนั้น ผลงานที่จะฟ้องว่าซีซั่นนี้ จะเป็นปีทองสำหรับ กรีลิช หรือไม่ การโชว์ฟอร์มเมื่อเจอกับทีมยักษ์ใหญ่ก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตอนนี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่า "เขาคือของจริง" แต่บทสรุปทุกอย่างจะต้องว่ากันช่วงท้ายฤดูกาล .. แค่ดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องสม่ำเสมอด้วย ยิ่งถ้าพา วิลล่า ลุย โควต้า ยุโรป จะเป็นเครื่องการันตีว่า นี่แหละปีทองของ แจ็ค กรีลิช จริงๆ

ฮาย ฮาวดี้-

logoline