logo-heading

เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วัน ทัพช้างศึกก็จะต้องลงทำศึกใน 3 สมรภูมิสุดท้าย กับการชี้ชะตาอนาคตในฟุตบอลโลก 2022 ว่าจะได้ไปต่อ หรือพอแค่นี้ นี่จึงเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเตรียมทีม ไปดูกันว่าทีมช้างศึกพร้อมแค่ไหน 

ค่ำคืนนี้ (25 พ.ค.64) ทีมชาติไทย ของเราจะลงสนามในเกมอุ่นเครื่องพบกับทีมชาติโอมาน ซึ่งเป็นการอุ่นเครื่องแบบปิด หรืออย่างไม่เป็นทางการ ตามเวลาบ้านเราก็จะหวดกันราวๆ 4 ทุ่มตรง ซึ่งนี่เป็นเกมอุ่นเครื่องแมตช์แรก ก่อนที่พวกเขาจะลงสนามในรอบคัดเลือกบอลโลก 3 เกมสุดท้าย อย่างที่บอกว่านี่เป็นเกมอุ่นเครื่องอย่างไม่เป็นทางการ ไม่มีการถ่ายทอดสด สามารถเปลี่ยนตัวนักเตะเท่าไหร่ก็ได้ ก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นการลองทีมของทั้งไทย และโอมาน ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะเล่นเป็นแบบ 3 ครึ่ง เพื่อให้ทั้งสองทีมได้ลองนักเตะอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะของไทยที่ขนกันไป 40 กว่าคน สำหรับการเตรียมทีมที่ผ่านๆ มาของ อากิระ นิชิโนะ ก็จะมีเกมอุ่นเครื่องลักษณะนี้มาโดยตลอด เพื่อเป็นการทดลองทีม และให้นักเตะทุกคนได้พิสูจน์ตัวเองในสนามก่อนจะตัดตัวผู้เล่น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับนักเตะทุกคนในทีมว่าใครจะทำได้ดีแค่ไหน เพื่อติดทีมชุดสุดท้ายในการแข่งขัน ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับแฟนบอลทุกท่านก่อนว่า เรื่องผลการแข่งขันในเกมนี้อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญ และประเด็นหลักในเกมอุ่นเครื่อง ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็อย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์กันแบบเสียๆ หายๆ เพราะมันคือการลองทีม และเรียกความฟิตซะมากกว่า ขณะที่อีกเกมจะเป็นการอุ่นเครื่องอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 พ.ค.นี้ โดยจะพบกับทาจิกิสถาน ซึ่งนี่เป็นเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ที่จะมีผลต่อคะแนนแรงกิ้งฟีฟ่าด้วย ดังนั้นเกมนี้น่าจะได้เห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น และหลังจบเกมนี้ก็คงจะได้เห็นรายชื่อนักเตะชุดสุดท้ายที่ผ่านการตัดตัวว่าจะมีใครบ้าง สำหรับความพร้อมของทัพช้างศึกในตอนนี้ ก็เดินทางมาเก็บตัวอยู่ที่ยูเออี ได้ 4 วันแล้ว ลงซ้อมไปสามครั้ง นักเตะทุกคนก็อยู่ในระหว่างปรับตัวและเรียกความฟิต ซึ่งก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ถูกกักตัวและลงซ้อมได้ไม่เต็มที่ที่เมืองไทยในช่วงที่ผ่านมา เรื่องขุมกำลังล่าสุดก็เพิ่งได้ 2 นักเตะที่หายป่วยและเดินทางไปสมทบกับทีมแล้วอย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ บดินทร์ ผาลา รวมถึง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร นักเตะดาวรุ่งจากสโมสรเลสเตอร์ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เพิ่งเข้าแคมป์วันนี้เป็นวันแรก จะเหลือก็แต่เพียง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะตามมาสมทบเป็นคนสุดท้าย จากนี้ก็มารอดูผลงานในเกมอุ่นเครื่องโดยเฉพาะเกมที่จะพบกับทาจิกิสถาน ว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องตัวผู้เล่น รูปแบบการเล่นต่างๆ ก็น่าจะพอมองออกว่าไหวไหมกับ 3 นัดที่จะต้องลงสนาม ที่จะเจอกับ อินโดนิเซีย, ยูเออี และ มาเลเซีย หลายคนอาจจะลืมว่าสถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ในตารางคะแนนเป็นอย่างไร เราเอามาให้ดูอีกครั้ง โค้งสุดท้าย "ทีมชาติไทย" ก่อนถึง 3 แมตช์ชี้ชะตาบอลโลก 2022 โดยในรอบนี้จะเอาแชมป์กลุ่ม กับอันดับ 2 ที่ดีที่สุดอีก 4 ทีมจาก 8 กลุ่มผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งถ้าให้บอกตามตรงแบบไม่เกรงใจก็คือตอนนี้เวียดนามน่าจะได้ไปแน่ๆ แล้ว 1 ทีม ถ้าไม่ทะลึ่งแพ้รวดในสามนัดที่เหลือนี้ ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก ยังไงซะถ้าจับพลัดจับผลูไม่ได้แชมป์กลุ่ม ก็เชื่อว่ายังดีพอที่จะเป็นอันดับสองที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีม ดังนั้นสำหรับทีมชาติไทยของเรา ลึกๆ ก็ยังมีโอกาสที่จะแซงเวียดนามและทุกทีมขึ้นไปจบอันดับที่ 1 แต่มันก็ยากพอๆ กับที่เวียดนามจะตกลงมา ดังนั้นโอกาสที่เปิดกว้างที่สุดคือการกลับไปรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่มให้ได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นการแย่งชิงกันสามทีมอย่าง ไทย, ยูเออี และมาเลเซีย ถึงตรงนี้โอกาสที่น่าจะพอๆ กันอยู่ที่ว่าใครจะทำได้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ยูเออี แม้อันดับจะอยู่ที่ 4 แต่พวกเขาแข่งน้อยกว่า 1 นัด ดังนั้นหากเกมตกค้างได้ 3 แต้มก็จะแซงไทยขึ้นไป แต่เราก้ยังมีเกมในมือที่ต้องเจอกับยูเออี อยู่ ถ้าชนะได้ก็จะแซงกลับได้เช่นกัน แต่ก็อาจจะเสียเปรียบต้องที่ไปเล่นบ้านเขา แต่โปรแกรมจริงๆ เราก็ต้องไปเยือนยูเออี อยู่ดี ดังนั้นมันก็ไม่เสียหายอะไร แต่ในสองเกมที่จะพบกับอินโดนิเซีย กับมาเลเซีย ยังไงก็ต้องชนะเท่านั้น เกมแรกกับอินโดฯทสำคัญที่สุด ถ้าได้สามแต้มก็ได้ลุ้นต่อ แต่ถ้าทำได้แค่เสมอ หรือทะลึ่งแพ้เลย ก็คงจะต้องหยุดเส้นทางไว้เท่านี้ และถ้าหากผ่านอิเหนามาได้ ก็ต้องเจอศึกหนักกับยูเออี คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าไทยจะได้ลุ้นต่อถึงเกมสุดท้ายกับมาเลย์หรือไม่ก็ต้องรอดูกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่า โอกาสของทีมชาติไทยยังเปิดกว้าง แต่ต้องลุ้นกันไปแบบนัดต่อนัด ตอนนี้คงต้องมองไปที่เกมกับอินโดฯ เป็นอันดับแรก ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อเรียกความมั่นใจ และอยู่ในเส้นทางต่อไป สำหรับโปรแกรมของทีมช้างศึกในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 3 เกมสุดท้าย มีดังนี้ โค้งสุดท้าย "ทีมชาติไทย" ก่อนถึง 3 แมตช์ชี้ชะตาบอลโลก 2022 ไว้สัปดาห์หน้าเรามารอลุ้นและเชียร์ทีมชาติไทย ของเราไปด้วยกันครับผม  โค้งสุดท้าย "ทีมชาติไทย" ก่อนถึง 3 แมตช์ชี้ชะตาบอลโลก 2022
logoline