logo-heading

ภายหลังทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี พุ่งชนพบความล้มเหลวจอดป้ายตกรอบแรกฟุตบอลชายเอเชียน เกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย ไปแบบไม่มีอะไรที่น่าจดจำ

ท่ามกลางกระแสโจมตีมากมายบรรดาแฟนบอลทั้งในโซเชียล และบุคลากรลูกหนังแดนสยามที่สาดส่องไปยังสมาคมกีฬาฟุตบอลฯในครั้งนี้ จนสุดท้าย “โค้ชโย่ง”  วรวุธ ศรีมะฆะ ต้องปิ๋วหลุดจากตำแหน่งไปแต่โดยดี และอีก 1 คนที่โดยเพ่งเล็งจากหลายฝ่ายไม่แพ้องค์กรลูกหนังไทย ก็คือ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ที่ดำรงตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิค อันที่จริงด้วยเนื้องานของ “โค้ชเฮง” คำว่าประธานพัฒนาเทคนิคเปรียบเสมือนหัวหน้าวางแผนกำหนดทิศทางองค์กรลูกหนังภายในประเทศไทย เช่น ทั้งในประเภทชายและหญิง เช่น ฟุตบอลสนามใหญ่ 11 คน, ฟุตซอล, ฟุตบอลชายหาด, ระดับเยาวชน หรือแม้กระทั่งการอบรมโค้ช แต่เมื่อไหร่ก็ตามหากทีมชาติไทยพ่ายแพ้หรือล้มเหลวตกรอบแรกในทัวร์นาเมนต์ต่างๆทีมมีส่วนร่วมในการแข่งขันนั้นๆ ชื่อของ “เฮงซัง” จะมีเอี่ยวโดนด่าจากแฟนบอลและสื่อมวลชนฝั่งตรงข้ามที่รอเวลาเหยียดซ้ำเติม ขอบสนามคัดสรร 5 เหตุผลทำไมแฟนบอลถึงไม่ชอบโค้ชเฮง 1.แฟนบอลไม่เข้าใจคำว่าประธานพัฒนาเทคนิค เพราะอะไร? แฟนบอลไทย(ส่วนใหญ่) ถึงไม่ชอบ"โค้ชเฮง" คำว่าประธานพัฒนาเทคนิคในต่างประเทศนั้นสำหรับมากเพราะเปรียบเสมือนเป็นหัวเรือใหญ่ในการคิดวางแผนเพื่อให้โครงสร้างฟุตบอลภายในประเทศออกไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติทุกระดับ ทั้งบอลหญิงบอลชาย, ฟุตซอล, ฟุตบอลชายหาด, การแข่งขันลีกระดับสโมสร, หรือแม้กระทั่งการสร้างศูนย์ฝึกเยาวชนเพื่อหาดาวรุ่งโนเนมจากต่างจังหวัดฝีเท้าดีๆเข้าสู่เมืองหลวง รวมถึงการอบรมผู้ฝึกสอนโค้ชทุกระดับ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด"เฮงซัง" เปรียบเสมือนคนดูรับผิดชอบภาพรวมทั้งหมด ในประวัติศาสตร์สมาคมฟุตบอล 103 ปี “เฮงซัง” คือคนแรกที่เข้ามาทำหน้าที่ประธานพัฒนาเทคนิค ทว่าด้วยความที่พูดคนภายนอกไม่ได้คุกคลีกับวงการฟุตบอลไทย จึงไม่รู้ว่าโครงสร้างมีอะไรบ้าง และมองว่าตำแหน่งนี้ไม่จำเป็นที่ต้องมีก็ได้ เพราะดูแล้วไม่น่าจะสร้างประโยชน์อะไร เพราะโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ น่าจะเหมาะสมกับการดูภาพรวมทั้งหมดมากกว่า 2.พูดจาตรงๆไร้วาทะศิลป์ เพราะอะไร? แฟนบอลไทย(ส่วนใหญ่) ถึงไม่ชอบ"โค้ชเฮง" นี่คือจุดบอดที่หลายคนจ้องหาเรื่องโจมตีโค้ชเฮงอยู่เสมอ เพราะเป็นคนพูดจาไร้วาทะศิลป์ พูดตรงแรงๆ รวมถึงการสื่อสารที่มักอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจได้ยากเย็นเหลือเกิน ยกตัวอย่างสมัยที่โค้ชเฮงเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ เมื่อปี 2016 มีการเสนอให้แก้ปัญหาจุดอ่อนในการรับมือลูกตั้งเตะของผู้เล่นไทย คือการใส่กฎกติกาในบอลลีกเยาวชนว่า หากมีทีมทำประตูได้ไม่ต้องไปเขี่ยบอลกลางสนาม แต่ให้ตั้งบอลไว้ที่จุดตั้งเตะลูกฟรีคิกแทน เรียกว่าทำสื่อมวลชนและแฟนลูกหนังไทยงงเป็นไก่ตาแตกกับแนวคิดตรงนี้ นอกจากนี้การให้สัมภาษณ์สื่อก็ไม่ค่อยระมัดระวัง ด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดีคุยได้กับทุกคนๆ จนบางครั้งคำพูดบางประโยค โดนสื่อมวลชนบางค่ายนำไปขยี้เป็นประเด็นใหญ่โต จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์กลับมาหาตัวเองหลายๆครั้ง ทั้งการให้ข่าวไปคนละทิ้งทางกับพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฯ หรือแม้กระทั่ง”โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เมื่อครั้งทำทีมชาติไทยชุดใหญ่ 3.ผู้คนชอบมองว่าโค้ชเฮงไปยุ่งหน้าที่เฮดโค้ช เพราะอะไร? แฟนบอลไทย(ส่วนใหญ่) ถึงไม่ชอบ"โค้ชเฮง" หลายๆครั้งเวลาทีมชาติชุดใดก็ตามฝึกซ้อมก่อนลงทำการแข่งขันจริง เรามักจะพบเห็นภาพโค้ชเฮง มีการเข้าไปพูดคุยกับโค้ช (หรือผู้ฝึกสอน) ทั้งราเยวัช, ซิโก้, โค้ชโย่ง เป็นต้น ในเรื่องแผนการเล่นหรือแท็คติก ซึ่งสิ่งที่คนทั่วไปรู้สึกคือ ทำไมต้องเข้าไปยุ่งวุ่นวาย เพราะหน้าที่ดังกล่าวมันควรเป็นของหัวหน้าผู้ฝึกสอนมากกว่า สิ่งที่เฮงซัง พยายามเข้าไปช่วยคือการให้คำแนะนำแชร์ไอเดียความคิดให้โค้ชนำไปปรับปรุง เพื่อหาทางรับมือกับคู่แข่งมากกว่าจะมีแค่แผนการเล่นรูปแบบเดียว  โค้ชบางคนรับฟังแต่บางคนไม่รับฟัง ซึ่งข่าวที่ระหองระแหงหลุดออกมาระหว่างโค้ชขวัญใจแฟนบอลชาวไทย กับโค้ชเฮง ก็บ่งบอกได้ดีว่าคนส่วนใหญ่ตีความไปว่าแกจุ้นจ้านเกินเหตุ 4.ความสำเร็จที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะอะไร? แฟนบอลไทย(ส่วนใหญ่) ถึงไม่ชอบ"โค้ชเฮง" “โค้ชเฮง” เข้ามารับบทบาทประธานพัฒนาเทคนิค พร้อมกับรับนโยบายองค์กรลูกหนังไทย ในการปฏิรูปโครงสร้างใหม่ทั้งการพัฒนาทีมชาติ, เยาวชน และโค้ช ให้มีความก้าวหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ เขาคิดค้นที่จะให้ ฟุตบอลไทยมีสไตล์การเล่นที่เป็นแบบฉบับของตัวเองในชื่อ “ไทยแลนด์เวย์” พร้อมวางคอนเซ็ปต์ให้ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชทุกชุดเดินตามแผนที่วางเอาไว้ แต่พอทำไปทำมา ทีมระดับเยาวชนทั้ง 16 ปี, 19 ปี 23 ปี, บอลหญิง กลับมีผลงานที่ไม่ต่างจากเดิม แถมบางชุดแย่หนักกว่าเก่า บางรายการในอาเซียนที่ผูกปีคว้าแชมป์กลับล้มเหลว จนทีมชุด 16 ปี และ 19 ปี ต้องมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชถึง 3 คน ในรอบ 2 ปี จากเดิมที่เคยหวังว่าบอลชายเยาวชน 2 รุ่นนี้ต่อยอดไปฟุตบอลโลกในอนาคตหรือเยาวชนโลก แต่ทำไปทำมาเหลวไม่เป็นท่า ส่วนผลงานทีมชาติชุดใหญ่ นอกจากแชมป์อาเซียน คัพ 2016 ก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง แถมผลงานบอลโลก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้ายที่เคยตั้งเป้าหมายเก็บ 23 แต้มจาก 30 คะแนนเต็ม แต่ทีมช้างศึกทำได้ 3 แต้ม  เรียกว่าทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามาคือรอยด่างที่หลายคนมองว่าทำงานแต่ไม่เข้าเป้าเอาเสียเลย 5.ผู้คนไม่รู้จักโปรไฟล์ในอดีตและมักตีความผิดๆ เพราะอะไร? แฟนบอลไทย(ส่วนใหญ่) ถึงไม่ชอบ"โค้ชเฮง" นี่คือหนึ่งข้อที่ถูกหยิบยกมาพูดกันของ“เฮงซัง”เมื่อครั้งขึ้นมาทำทีมชาติไทยระหว่างปี 1997-1998 เหตุการณ์ฟุตบอลอาเซียน คัพ เมื่อปี 1998 ในเกมที่ไทยพบอินโดนีเซีย ในรอบแบ่งกลุ่ม เรื่องราวอื้อฉาวโจษจันไปทั่วโลก ที่มีผู้เล่นอินโดฯ เตะบอลเข้าประตูตัวเองเพื่อให้ไทยชนะและเข้ารอบไปในฐานะแชมป์กลุ่มเอไปพบเวียดนาม  ในรอบรองชนะเลิศ แต่กลับมีแฟนบอลหรือนักข่าวบางคนเอาไปพรรณนาว่าโค้ชเฮง เป็นคนสั่งให้นักเตะไทยเตะเข้าประตูตัวเอง ทั้งที่ภาพและหลักฐานก็ระบุชัดเจนว่า เมอร์ยิด เอฟเฟนดี้ กองหลังอินโดฯเป็นผู้เตะบอลเข้าประตูตัวเอง (ช็อตทำเข้าประตูตัวเองนาทีที่ 1)

หนุ่มบุรีรมย์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline