เก็บตก! ประเด็นเด็ด หลัง บาร์ซ่า อัด นาโปลี ลิ่ว 8 ทีม UCL

ตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ สำหรับ บาร์เซโลน่า หลังจัดการเปิดบ้านดับซ่า นาโปลี ไป 3-1 ส่งผลให้สกอร์รวม 2 นัด ชนะไป 4-2 ประตูด้วยกัน และนี่คือ 4 ประเด็นเด็ดหลังเกมนัดนี้ที่เรานำมาฝากกัน

 

นาโปลี ทักทายได้น่ากลัว

  การเสมอกันมาในเกมแรก 1-1 ประตู ทำให้ นาโปลี มีแรงฮึดที่ดีทีเดียว เปิดฉากเริ่มเกมได้เด็ดสะเด่าเร้าใจ เพียงแค่นาทีแรก อินซินเญ่ ก็ได้หลุดมาทางซ้ายก่อนจ่ายแฉลบ เซเมโด้ กับ ปิเก้ ไหลไปเข้าทาง ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ในกรอบเขตโทษบรรจงฮาล์ฟวอลเลย์อย่างสวย แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปชนเสาสามเหลี่ยมเข้าอย่างจัง บอกเลยว่าถ้าลูกนี้เข้าไปตั้งแต่หัววัน ทีมที่เข้ารอบอาจเป็นนาโปลีก็เป็นได้  

ลิโอเนล เมสซี่

  เป็นอีก 1 เกมที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่า บาร์ซ่า ขาดชายที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ได้จริงๆ แม้อายุจะปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แต่ก็ยังกระชากลากเลื้อยเรีบกฟาล์วได้อย่างสะเด็ดสะเด่า จังหวะยิงก็ยังคมกริบเหมือนเคย ประตูที่ส่ง บาร์ซ่า ขึ้นนำ 2-0 นี่ไม่เทพจริงไม่มีทางทำได้ แหวกผู้เล่นนาโปลีมา 3 คน โดนเตะโดนทึ้งจนล้ม แต่ก็ลุกขึ้นมาเกี่ยวบอลเล่นต่อได้ หนำซ้ำยังโยกหลอก 1 จังหวะ ก่อนซัดอ้อมผ่านมือ ดาบิด ออสปิน่า เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แบบนี้เลยแหละที่เรียกว่า “ข้ามาคนเดียว” เท่านั้นไม่พอช่วงท้ายครึ่งแรกก็มาโชว์สเต็ปเรียกฟาล์วในเขตโทษได้ แต่ก็แอบเสียวเจ็บอยู่เหมือนกัน เพราะต้องหยุดดูอาการกันสักพัก ซึ่งสุดท้ายก็ปล่อยให้ หลุยส์ ซัวเรซ รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาด ส่วน เมสซี่ ก็ดูท่าจะไม่ได้เจ็บอะไรมาก เล่นได้จนจบเกม  

ผู้ตัดสิน และ VAR

  เชื่อว่านี่คือประเด็นที่ถ้าใครได้ดูเกมนี้อยู่ คงต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อะไรของมันวะ” ความอิหยังนี้เริ่มจากประตูขึ้นนำ 1-0 ของ บาร์ซ่า ในนาทีที่ 11 จากลูกโขกของ เกลม็อง ล็องต์เล่ต์ ซึ่งผู้เล่นนาโปลี พยายามฟ้องว่า พวกเขาโดนทั้ง ล็องต์เล่ต์ กับ ปิเก้ เหนี่ยวรั้งผลักจนล้ม ยังไงก็น่าจะต้องเป็นลูกฟาล์วก่อนแล้ว ซึ่งดูจากภาพช้าก็มีการเหนี่ยวรั้งผลักกันจริงๆ แต่ในมุมผู้ตัดสินอาจจะคิดว่าไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น ดังนั้นหลังดู VAR เสร็จ ก็ยืนยันคำตัดสินให้ลูกนี้เป็นประตู แต่แน่นอนในโลกโซเชียลเสียงแตกกันยกใหญ่ ถัดมาก็เป็นจังหวะที่ เมสซี่ โชว์เหนือพักอกพลิกหนี แนวรับ นาโปลี ก่อนจะยิงผ่านมือ ออสปิน่า เข้าประตูไป แต่หลังจากดู VAR ปรากฏว่าเป่าเป็นแฮนด์บอลของ เมสซี่ ซึ่งสารภาพตามตรงว่าจนถึงตอนนี้ที่บอลจบแล้วนั่งเขียนสคริปนี้เนี่ย ผมดูภาพช้าหลายรอบมาก ยังไม่เห็นว่ามันโดนมือตรงไหนเลยด้วยซ้ำ หรือถ้าโดนก็คงนิดเดียวจริงๆ แต่ย้ำอีกครั้งนะครับว่านี่เขียนสดๆ ร้อนๆ ตอนเกิดเรื่อง ซึ่งสักพักมันก็คงมีภาพนิ่งหรือภาพช้าที่ชัดๆ กว่านี้บอกว่ามันแฮนด์บอลเต็มๆ ก็เป็นได้นะครับ ขอออกตัวไว้ก่อนเลย อีกประเด็น 2 จุดโทษช่วงท้ายครึ่งแรก เมสซี่ โดนเตะล้มไป กรรมการเรียกดู var ตั้งนานสองนาน แต่ตอนที่ นาโปลี ได้นั้น ผู้ตัดสินกลับไม่เรียกดูเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทว่าก็ต้องยอมรับว่า ราคิติช เข้าช้าจริงๆ สมควรฟาล์ว แต่ที่งงคือทำไมไม่ดู var สักหน่อย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเพิ่งดูจังหวะ เมสซี่ โดนทำฟาล์วมาแท้ๆ  

ต่ออายุ เซเตียน

  ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้น ว่ากันว่าถ้า กีเก้ เซเตียน พลาดท่าพา บาร์ซ่า แพ้ นาโปลี ร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายคาบ้าน เจ้าตัวก็คงต้องเจอจุดจบไม่ต่างจาก เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เพิ่งโดน ยูเวนตุส ปลดออกไปหมาดๆ ซึ่งการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้นี้ ก็เพียงพอต่อกับการยืดอายุการกุมบังเหียนทัพ “เจ้าบุญทุ่ม” ของเขาต่อไปได้อีกหน่อย อย่างน้อยก็จนกว่าจะจอดป้ายในถ้วย UCL นี่แหละ  

ชิน ชินพัฒน์