เมื่อวัฏจักร โอซิล กับ ปืนใหญ่ จบลง เขาจะถูกจดจำแบบไหน ?
มีนักฟุตบอลไม่กี่คนในโลกนี้หรอกครับ ที่จะสร้างให้แฟนบอล แบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกันมากที่สุด บ้างก็ชื่นชอบ บ้างก็เกลียดไปแล้ว แต่กระนั้นเราจะตัดสินเขาอย่างรุนแรงหรือไม่ หากพิจารณาจากทุกสิ่งที่เขามอบให้กับ อาร์เซน่อล ตลอดไป
มีนักฟุตบอลไม่กี่คนที่แตกแยกเหมือนเมซุตโอซิล - แต่เราตัดสินดาวเตะเยอรมันอย่างรุนแรงโดยพิจารณาจากทุกสิ่งที่เขามอบให้กับอาร์เซนอลหรือไม่?
ตัวเดียวเสียวทั้งลีก
เมซุต โอซิล ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาอยู่กับ อาร์เซน่อล แบบวันเส้นตายตลาดซัมเมอร์ เมื่อปี 2013 พร้อมสร้างวลีตำนาน "ตัวเดียวเสียวทั้งลีก" เพราะการเข้ามาของ โอซิล มันทำให้รู้สึกถึงความหวังแห่งอนาคต เป็นสัญญาณที่สิ้นสุดยุคที่ขายนักเตะกิน และ ไร้ซึ่งความหวังการคว้าแชมป์
สิ่งต่างๆมากมายเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ..
ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา โอซิล อาจต้องเจอเหตุทุกข์ทนทรมาน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาได้สร้างผลอันสุดยอดเอาไว้ ฟอร์มแอสซิสต์ของเขา ช่วยให้เหล่ากองหน้า ไอ้ปืนใหญ่ ยิงกระจายเป็นว่าเล่น เขาไม่ต้องแสดงอภินิหารอะไรมากมาย แต่มีความเยือกเย็นที่ไม่เหมือนเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 10 คนอื่นๆ
โอซิล ใช้ 2 เท้า ร่ายเวทมนตร์ บนผืนฟลอร์หญ้า ลูกเทคนิคแพรวพราว หรือ อะไรที่มันดูหวือหวา เขากลับทำให้มันดูง่ายดาย บ่อยครั้งเขาถูกด่าเรื่องความขี้เกียจ ราวกับว่าเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ผลงานเรื่องเกมรุก ไม่เคยขาดตกบกพร่อง
ซีซั่นแรกกับ ไอ้ปืนใหญ่ 9 แอสซิสต์ / ซีซั่น 2 5 แอสซิสต์ / และ มาตกผลึกเอาที่ซีซั่น 3 ที่เขาสร้างผลงานระดับประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ด้วยการแอสซิสต์สูงสุดในซีซั่น ที่จำนวน 19 ลูก สถิติเกือบเทียบเท่ากับ เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้า อาร์เซน่อล ที่เคยทำไว้ 20 ลูก
ฤดูกาล 2015-16 โอซิล พา อาร์เซน่อล จบเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก ก่อนจะคั่วแชมป์ เอฟเอ คัพ ปิดท้ายซีซั่น จากผลงานแบบนั้นชื่อเสียงของเพลย์เมกเกอร์สายเลือดเติร์ก โด่งดังกระฉ่อนไปทั่วโลก
ผลงานเริ่มตก เพราะอาการบาดเจ็บ
แต่ต่อให้ฟอร์มจะกระฉ่อนมากเท่าไหร่ เขายังมักพูดถึงในแง่ลบอยู่เสมอ และ ลางร้ายมันบอก ตั้งแต่วันที่เขาย้ายมาอยู่กับทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" วันแรกที่เขาให้สัมภาษณ์ มีคำว่า “I am a Gunner,” ซึ่งในภาษาอังกฤษ มันมีความหมายแฝงเรียกการแตกหัก
เพราะหลังจากนั้น เมซุต โอซิล ก็เริ่มเจอปัญหาอาการบาดเจ็บ จากเคยลงสนาม พรีเมียร์ลีก ระดับ 30 เกม ต่อซีซั่น หรือ มากกว่า มาเหลือระดับ 25 เกม จนไม่ถึง 20 เกม ตามรอย แจ็ค วิลเชียร์ อดีตเด็กดาวรุ่ง "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ไปไม่สุด เพราะเจอโรคเดี้ยงรุมเร้าไม่หยุดหย่อน
โอซิล เจออาการบาดเจ็บแผ่นหลังเล่นงานเยอะที่สุด และ นั่นเป็นที่มาที่ทำให้เขาไม่เหมือนเก่า
กระแสเรื่องความขี้เกียจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะฟุตบอลสมัยใหม่ บรรดากองหน้า ต้องลงมาช่วยเกมรับ และ ทัศนคติที่ไม่อาจปรับเปลี่ยน ทำให้สถานะของเขา เริ่มกลายเป็นตัวสำรองมากขึ้น
เรื่องในสนามว่ายากแล้ว เรื่องนอกสนามเป็นอะไรที่ยากกว่า
- โอซิล ทำให้หุ้นการตลาด และ ยอดขายของ อาร์เซน่อล ตกฮวบ ในประเทศจีน เพราะเจ้าตัวไปวิจารณ์ รัฐบาลแดนมังกร ผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าปฏิบัติไม่เหมาะสมต่อชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ (ชาวมุสลิมในเมืองซินเจียง) กลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่สร้างความหายนะ แทนที่ อาร์เซน่อล จะออกมาปกป้อง กลับกลายเป็น ตัดหางปล่อยวัด ว่าเป็นความคิดของนักเตะคนเดียว
- โอซิล ติดเกม E-sport อย่างหนัก จนถูกแฉว่า อาการบาดเจ็บแผ่นหลังที่เรื้อรัง ก็มาจากการนั่งเล่นเกมส์นานๆ ไม่เอาเวลาไปฟื้นฟูร่างกาย เพื่อให้กลับมาฟิตเต็มสูบอีกครั้ง
2 เหตุผลนี้ ก็เพียงพอแล้ว ที่ทำให้อนาคตของ โอซิล กับ อาร์เซน่อล มืดมน มันอาจมีช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะสว่างไสวขึ้นมา แต่มันก็ดับมืดลงอีกครั้ง ในยุค มิเกล อาร์เตต้า กุมบังเหียน
โอซิล ถูกตัดชื่อออกจากทีม ในการแข่งขันทุกรายการ ไล่ตั้งแต่เกม ยูโรปา ลีก ที่มักจะให้โอกาสกับตัวสำรอง จนกระทั่งมาถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นอันว่ากลายเป็นส่วนเกินแบบถาวร
อย่างไรก็ตามใช่ว่า การดรอป โอซิล จะดีขึ้น เพราะเกมรุก อาร์เซน่อล ฝืดเคืองอย่างเห็นได้ชัด ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่เป็น "เดอะ แบก" ก็เป็น "เดอะ บอด" ที่ยิงประตูแทบไม่ได้
จนกระทั่ง อาร์เตต้า ให้โอกาสกับ เอมิล สมิธ โรว์ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่ง ที่ลงมาเสียบแทนตำแหน่ง โอซิล และ ทำผลงานเข้าตาพาทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" เก็บชัยชนะได้ตลอด 4-5 นัดหลังสุด
ความจงรักภักดี
ถ้าคุณรู้ตัวว่าโดนดองแบบไม่เห็นหัว คุณจะไปจากที่ตรงนี้ไหม ? แต่กับ โอซิล เขาขออยู่กับทีม เพื่อรอโอกาสอีกครั้ง ถึงแม้โดนแซวตลอดว่า "นั่งกิน นอนกิน รับเงิน 350,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์"
มันเป็นเรื่องน่าเศร้าเหมือนกัน ที่ตัวเปลี่ยนเกมอย่าง โอซิล ทำได้เพียงนั่งกางร่มหลบโดด ดูเพื่อนอยู่บนอัฒจันทร์ตอนซัมเมอร์ และ เก็บตัวอยู่บ้านหนีความหนาว เมื่อฤดูกาลเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ เขามีดีกรีเป็นนักเตะระดับโลก คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2014 กับทีมชาติเยอรมัน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทุกๆอย่าง แต่วิธีที่จะตอบสนองออกมาต่างหาก เป็นเรื่องสำคัญ ! โอซิล เคยสูญเสียความมั่นใจ ในช่วงฤดูกาลแรกกับ อาร์เซน่อล ซึ่งแทนที่เขาจะมองโอกาสเรื่องการย้ายทีม เฉกเช่น อังเคล ดิ มาเรีย อดีตเพื่อนร่วมทีม เรอัล มาดริด เคยทำ เมื่อครั้งมาอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด
แต่เขาเลือกสู้ต่อ เพื่อพิชิตใจ อาร์แซน เวนเกอร์ และ สาวก "เดอะ กันเนอร์ส"
โอซิล ปฏิเสธย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อฤดูกาล 2014-15 พร้อมกับพ่นความคิดเห็นที่ด้วยการเล่นคำภาษาบาวาเรียน ว่า “Mia San Arsenal” หรือ พวกเราคือ อาร์เซน่อล ซึ่งคำนี้มันยังเป็นป้ายแบนเนอร์ ติดอยู่ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
และเพียงแค่ 2 ฤดูกาลแรกของเขากับ อาร์เซน่อล ก็คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ แน่นอนว่าเรื่องฝีเท้า และ ความจงรักภักดีเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุด ที่ควรถูกจดจำว่าเป็นตำนานสโมสร คุณเห็นด้วยไหม ?
โอซิล คือผู้สร้างสรรค์ผลงานแอสซิสต์ในระดับโลก ที่ไม่ได้เห็นบ่อยๆ ในช่วงฟอร์มพีคสูงสุด เขาคือผู้เล่นระดับตัวท็อปแบบไม่ต้องสงสัย เขามักพูดเรื่องความรักที่มีต่อ อาร์เซน่อล และ กรุงลอนดอน อยู่เป็นประจำ ไม่เชื่อให้ไปถามแฟนบอล สเปอร์ส ดูก็ได้ เพราะ โอซิล มักเปิดศึกโซเชี่ยล กับ "ไก่เดือยทอง" อยู่เป็นประจำ
ในวันที่ อาร์เซน่อล มีโอกาสเสียทั้ง โอซิล และ อเล็กซิส แบบมือเปล่า ไม่ได้สตางค์สักแดงเดียว แต่ โอซิล ตัดสินใจอยู่กับทีมต่อไป ถึงแม้ว่าเพื่อนของเขาจะย้ายไปอยู่กับคู่อริอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ สโมสรดูไม่มีทีท่าว่าจะประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ
แต่กระนั้นก็ยังมีหลายคน มองว่า โอซิล ไม่ใช่ตำนานสโมสรอะไรด้วยซ้ำ
จากผลงานในอดีต และ ความจงรักภักดี มันอาจเป็นถ้อยคำที่ดูฟังไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ ในการวิจารณ์ โอซิล แบบนั้น แต่กระนั้นมันมีเหตุผลที่หยิบยกออกมาว่า ดาวเตะรายนี้ เป็นคนเก็บตัว พูดน้อย ทัศนคติไม่ดี ความมุ่งมั่นไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นเชื่อกันว่าไม่สามารถเป็น เดอะ แบก หรือ สวมปลอกแขนเป็นผู้นำทีม อาร์เซน่อล ได้หรอก
บางทีแฟนบอล อาร์เซน่อล อาจจะต้องการจากตัว โอซิล มากเกินไป ฉะนั้น การเซ็นสัญญาเพลย์เมกเกอร์ชั้นยอดเข้ามาแทน ก็อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีมาก ถ้าหากแฟนบอลต้องการอะไรที่มันเร่งด่วนทันที เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทิ้งไว้
ฉะนั้น เมื่อใดก็ตามที่ โอซิล ต้องเก็บข้าวของออกจาก นอร์ธ ลอนดอน ต่อให้ไม่ใช่ในฐานะตำนาน คุณจะจดจำเขาในแบบไหน ? คนที่จงรักภักดีต่อสโมสร, คนที่สร้างผลงานเรื่องการแอสซิสต์ หรือ จดจำในแง่ลบที่เขาเคยสร้างเอาไว้
เพราะคนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบไปเสียทุกเรื่อง
ฮาย ฮาวดี้
