โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลงานทีมชาติไทยไม่ดีในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 3 นัดสุดท้าย ภายใต้การนำทัพของ อากิระ นิชิโนะ
หลังจากที่ทีมชาติไทย เก็บได้แค่ 1 คะแนน จากการลงสนามไปแล้ว 2 นัดจาก 3 นัดสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ด้วยการเสมอกับ อินโดนิเซีย 2-2 และล่าสุดแพ้ ยูเออี 3-1 ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก แน่นอนแล้ว
สำหรับผลงานที่ผ่านมาของทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะผลงานรอบนี้ดูจะน่าผิดหวังมากที่สุด อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้กุนซือแดนปลาดิบที่พกดีกรีกุนซือฟุตบอลโลก ถึงไม่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติไทย ทีมงานขอบสนามบอลไทย ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล อดีตประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในรายการขอบสนามบอลไทย
ซึ่ง "โค้ชเฮง" ได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจสำหรับการคุมทัพของ นิชิโนะ ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หนนี้ ดังนี้
1.ทีมงานไม่สมบูรณ์
"โค้ชเฮง" มองว่าทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของทีมชาติไทย ณ เวลานี้ยังไม่สมบูรณ์ หลังจากที่เสีย ธชตวัน ศรีปาน ไป ก็ไม่ได้มีใครเข้ามาแทน อีกทั้งการที่ นิชิโนะ มาทำทีมชาติไทยเพียงคนเดียว โดยที่ไม่มีสตาฟฟ์โค้ชชาวญี่ปุ่นมาเลย ทำให้รายละเอียดในการทำงานมันต่างออกไป เพราะถ้ามีผู้ช่วยหรือทีมงานเป็นโค้ชญี่ปุ่น การทำงานจะละเอียดกว่านี้ โดยเฉพาะการสเกาท์คู่ต่อสู้ ซึ่งโค้ชไทยเราก็มี แต่อาจจะทำไม่ละเอียดเท่าโค้ชญี่ปุ่น และอีกอย่างถ้ามีสตาฟฟ์ชาวญี่ปุ่นในทีม ก็จะทำให้ นิชิโนะ รู้สึกไม่โดดเดี่ยว และมีเพื่อนคอยปรึกษาอยู่ตลอดเวลา
2.การจัดการที่ผิดพลาด
อีกเรื่องนึงที่น่าสนใจคือการนำเอานักเตะไปที่ยูเออี ถึง 42 คน นั้น โค้ชเฮง มองว่ามันเยอะเกินไป และทำให้การจัดการลำบาก ซึ่ง นิชิโนะ เอง รวมทั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการจัดการทีมที่มีนักเตะที่เยอะขนาดนี้มาก่อน
3.ขาดตัวเก๋ามากประสบการณ์
การขาดหายไปของ 3 นักเตะอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานของทีมชาติไทยออกมาไม่ดี เพราะถ้ามี 3 คนนี้ ก็จะช่วยทีมได้เยอะ และจะมีรูปแบบการเล่นที่ดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน แต่การไม่มีสามคนนี้มันก็เป็นโอกาสที่คนอื่นจะได้แสดงฝีมือ แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะทดแทนได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ยังได้เผยทิ้งท้ายด้วยว่า
"จริงๆ แล้วทุกคนหวังจะเห็นทีมชาติไทยไปเล่นบอลโลก แต่ผมบอกตรงๆ เลยว่ามันไม่ง่าย ถ้าเราดูที่สโมสรของเราใน ACL ก็ยังไม่ถึงรอบลึกๆ เอเชี่ยน คัพ เราก็ไม่เคยเป็นแชมป์เลย ดังนั้นการจะไปบอลโลก มันยากสำหรับเรา แต่ถ้าในอนาคตเราให้ความสำคัญในระดับเยาวชนเยอะๆ มันก็จะเป็นไปได้ แต่ปีที่ผ่านมาเราไม่มีแข่งระดับเยาวชนเลย ดังนั้นการจะไปบอลโลก เราก็คงต้องเสียเวลาไปอีก 4 ปี" โค้ชเฮง กล่าวทิ้งท้าย
