logo-heading

อาร์เซน่อล

ผลงานเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จบอันดับ 5 ในตาราง พรีเมียร์ลีก, ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ดาวซัลโว : ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง 31 ประตู

แนะนำทีม

อาร์เซน่อล ยังคงขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำระดับยุโรป ถึงแม้จะห่างหายจากการสัมผัสแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปนานนับตั้งแต่ปี 2004 ช่วงหลังๆ แชมป์ที่ได้ส่วนใหญ่จะเป็น เอฟเอ คัพ มากกว่า โดยคว้าไป 3 สมัย ในช่วง 6 ปีหลังสุด แต่นั่นก็ทำให้พวกเขากลายเป็นสโมสรที่กอบโกยแชมป์รายการนี้มากที่สุดในปัจจุบัน สถานการณ์ของทีม ณ ปัจจุบันเหมือนแฟนบอลจะไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่กับผลงานของทีมที่ไม่ได้ตีตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ติดต่อกันรัวๆ รวมไปถึงนโยบายของทีมที่ค่อนข้างขี้งกกับการใช้เงินอาทิเช่นการเสริมทัพ หลายๆ คนเชื่อว่า อาร์เซน่อล เป็นทีมใหญ่และดึงดูดนักเตะดีๆ ได้อยู่แล้ว ถ้าได้เงินช้อปเหมือนกับเหล่ากลุ่ม Top 6 ด้วยกันก็มีสิทธิ์ทวงความยิ่งใหญ่กลับมาได้

ผู้จัดการทีม

อูไน เอเมรี่

อยู่กับ อาร์เซน่อล มาแล้ว 1 ปีกว่าๆ ผลงานก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่โอเคเลยสำหรับ อูไน เอเมรี่ เพราะที่ผ่านมาได้โอกาสคุมทีมไป 58 นัด พาทีมชนะ 35 นัด เสมอ 8 นัด และแพ้ 15 เกม มีเปอร์เซนต์ชนะอยู่ที่ 60.3 ส่วนในเรื่องของสไตล์การทำทีมก็ยังเน้นบอลระบบและมีเกมบุกที่จัดจ้านไม่ต่างจากยุคของ อาร์แซน แวนเกอร์ เป้าหมายหลักๆ ของเจ้าตัวก็คือการพาพลพรรค 'ปืนใหญ่' กลับไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้นั่นคืออันดับแรก จริงๆ โอกาสเมื่อปีก่อนก็มีทั้งการได้เข้าชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รวมไปถึงการลุ้นแย่งพื้นที่ Top 4 แต่สุดท้ายก็สะดุดขาตัวเองล้มอยู่หลายเกมเช่นกันในช่วงโค้งสุดท้าย

นักเตะเด่น

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง

อาร์เซน่อล เป็นทีมที่หากองหน้าเก่งๆ ยากมาก หลังจากเสีย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไปก็แทบจะไม่มีใครที่เป็นที่พึ่งได้เลย แต่ตอนนี้ปัญหาดังกล่าวได้หมดไปแล้วหลังจากได้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง มาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถึงแม้จะเป็นสังเวียนที่แตกต่างแต่ตัวของหัวหอกทีมชาติ กาบอง ก็ปรับตัวได้ดีและรักษามาตรฐานได้ดีต่อเนื่อง โดยพี่แกซัดไป 10 ประตูจาก 13 ในช่วงครึ่งปีหลังจากย้ายมาช่วงปีใหม่ 2018 ตัดภาพกลับมาที่ซีซั่น 2018-19 โอบาเมอยอง จัดหนักจัดเต็มเลยด้วยการไล่ระเบิดตาข่ายเป็นว่าเล่นถึง 22 ประตูจาก 36 เกมใน พรีเมียร์ลีก พร้อมครองตำแหน่งดาวซัลโวร่วม ต้องบอกเลยว่าถ้า อาร์เซน่อล ไม่มีชายคนนี้ก็มีสิทธิ์จบต่ำกว่าอันดับ Top 6 อย่างแน่นอน

รายชื่อนักเตะชุดทัวร์อุ่นเครื่อง ไอซีซี คัพ

ผู้รักษาประตู : แบรนด์ เลโน่, เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ, แมตต์ มาซี่ย์ กองหลัง : คาร์ล เจนกินสัน, เอคตอร์ เบเยริน, คัลลั่ม แชมเบอร์ส, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, ชโคดราน มุสตาฟี่, ร็อบ โฮลดิ้ง, คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส, เซอัด โคลาซินาช, เซ็ค เมดลี่ย์, นาโช่ มอนเรอัล, โดมินิค ธอมป์สัน กองกลาง : เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, โจ วิลล็อค, กรานิต ชาก้า, ร็อบบี้ เบอร์ตัน, เจมส์ โอลายินก้า, เฮนริค มคิห์ตาร์ยาน, เมซุต โอซิล, ไรส์ เนลสัน, เอมิล สมิธ โรว์ กองหน้า : กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, บูกาโย่ ซาก้า, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง, อเล็กซองเดร ลากาแซตต์, เอดดี้ เอ็นเคเทียห์, ไทรีซ จอห์น-จูเลส

โปรแกรมการแข่งขัน

วันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ค. พบ บาเยิร์น มิวนิค (10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) วันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. พบ ฟิออเรนติน่า (05.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) วันพุธที่ 24 ก.ค. พบ เรอัล มาดริด (06.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

อย่าลืมหาที่ดู ที่เชียร์ สดๆ กันนะครับ #ช้างฟุตบอลโมเม้นท์ #เพื่อนกันทีมเดียวกันถึงขอบสนาม #ไปเชียร์กัน #ช้าง #เอ้าชน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline